LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด




หุ้น ASML งบออกมาดี แต่ Guidance และ ยอดจอง น่าผิดหวัง ทำให้ราคาลงแรงในรอบ 26 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผันผวนในวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2024 โดยเฉพาะในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้รับผลกระทบจากผลประกอบการของ ASML ที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ASML รายงานยอดจอง (Bookings) ไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ €2.63 พันล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ที่ €5.39 พันล้านยูโรไปเกือบครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้หุ้นของบริษัทปรับตัวลงแรงถึง 15.64% ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในรอบ 26 ปี แม้ว่า ASML จะประกาศกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ €5.28 สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ €4.90 แต่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยอดจองและการชะลอตัวของยอดขายในอนาคตทำให้เกิดแรงขายอย่างมาก นอกจากนี้ บริษัทยังปรับลดคาดการณ์ยอดขายปี 2025 ลงมาอยู่ที่ €30,000-€35,000 ล้านยูโร จากคาดการณ์เดิมที่ €40,000 ล้านยูโร ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดชิปอาจเติบโตช้าลงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

การปรับตัวลงของหุ้น ASML ส่งผลให้เกิดแรงขายในหุ้นชิปอื่น ๆ เช่น Nvidia (-4.5%), AMD (-5.2%), Intel (-3.3%) และ Broadcom (-3.5%) ทำให้ดัชนี Philadelphia Semiconductor Index ลดลงถึง 5.3% ในวันเดียว นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน โดย Exxon Mobil (-3%) และ Chevron (-2.7%) ขณะที่ UnitedHealth ลดลง 8.2% หลังจากประกาศคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าคาด

แนวโน้มตลาด

การที่ ASML ปรับลดคาดการณ์ยอดขายปี 2025 เป็นสัญญาณว่าตลาดชิปทั่วโลกอาจเข้าสู่ช่วงชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น ชิปในอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคการผลิตอื่น ๆ ขณะที่ชิป AI ยังคงมีความต้องการสูง เช่น Nvidia ที่ยังคงไม่สามารถผลิตชิปได้เพียงพอกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ที่ต้องจับตามองก็คือเรื่องที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดนกำลังพิจารณามาตรการจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงจาก Nvidia และ AMD ไปยังบางประเทศ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง เพื่อจัดการปัญหาความมั่นคงของชาติและควบคุมการแพร่กระจายของเทคโนโลยี AI แม้ว่ามาตรการนี้ยังอยู่ในขั้นต้น แต่นักลงทุนเริ่มมีความกังวลเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว หุ้น ASML มักจะมีความผันผวนสูงกว่าหุ้นในกลุ่มตัวอื่นๆ เนื่องจากเป็นหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิตชิป การที่ ASML เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำคัญอย่างเครื่องมือ lithography ที่ใช้ในการผลิตชิปขั้นสูงทำให้การเคลื่อนไหวของหุ้นมีความผันผวนมากเป็นพิเศษ อีกทั้งนักลงทุนมักจับตามองผลประกอบการและการคาดการณ์ (guidance) ของ ASML อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้สำคัญต่อแนวโน้มของอุตสาหกรรมชิปโดยรวม ตลาดยังจับตาดูผลประกอบการและการคาดการณ์ของบริษัทหลักในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง TSMC, AMD, Broadcom และพี่ใหญ่อย่าง Nvidia ซึ่งกำลังทยอยประกาศงบกันออกมา ซึ่งผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงทิศทางของอุตสาหกรรมชิปในอนาคต


มุมมอง

เรามองว่าการปรับตัวลงในครั้งนี้เป็นโอกาสในการสะสม โดยเฉพาะในกลุ่มเซมิคอนที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งยังคงมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรูปแบบ Soft Landing รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง เป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว

กองทุนแนะนำ

กองทุน LHSEMICON มี Master Fund คือ iShares Semiconductor ETF (SOXX) โดยแนวรับที่น่าสนใจตาม Fibonacci Retracement ได้แก่
  • แนวรับแรก: 220.53 (Fibonacci 38.2%)
  • แนวรับถัดมา: 206.08 (Fibonacci 50%)
  • แนวรับลึกสุด: 191.63 (Fibonacci 61.8%)
โดยแนะนำให้ตั้ง Stop Loss ที่ 7-8% จากเงินต้น และการลงทุนในกองทุน LHSEMICON ไม่ควรเกิน 10% ของพอร์ตการลงทุน โดยให้เป็นส่วนของ Satellite Port



Source : https://www.tradingview.com/news , https://edition.cnn.com/markets/stocks/ASML , https://tradingeconomics.com/asml:na:eps



 
 

 

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ