สรุปภาวะตลาด
เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้มีการแถลงในงานของ IMF ว่าจะไม่ลังเลที่จะดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด หากเห็นว่ายังคงมีความจำเป็น แต่ตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักจากประเด็นดังกล่าวมากนัก สะท้อนผ่านดัชนี S&P500 และ Nasdaq ได้ปรับตัวขึ้นกว่า 1.3% และ 2.4% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET Index ได้ปรับตัวลดลง 30.19 จุด (-2.1%) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายของต่างชาติ อีกทั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประกาศงบในส่วนของกลุ่มค้าปลีก และท่องเที่ยวที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ นักลงทุนต่างชาติมีการขายหุ้นไทยออกมาเพิ่มเติมอีก 9.3 พันล้านบาท ในขณะที่กองทุนในประเทศมีการซื้อสุทธิที่ 1.8 พันล้านบาท
- ในวันศุกร์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้แถลงรายละเอียดความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยกำหนดผู้มีสิทธิ์รับเงินต้องมีอายุเกิน 16 ปี มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาท และมีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท จำนวนรวมประมาณ 50 ล้านคน คาดว่าจะใช้เงินทุนทั้งหมดจำนวน 500,000 ล้านบาท โดยที่มาของเงินทุนมาจากการออกพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน
- 14 พ.ย. ยุโรป : GDP 3Q (QoQ) โดยคาดการณ์ที่ -0.10% (ต่ำกว่าเดือนก.ย.ที่ 0.2%)
- 14 พ.ย. สหรัฐฯ : เงินเฟ้อ เดือนตุลาคม (YoY) โดยคาดการณ์ที่ 3.3% โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 3.7%
- 15 พ.ย. จีน : ยอดค้าปลีก เดือนตุลาคม (YoY) โดยตลาดคาดการณ์ที่ 7% โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 5.5%
- 15 พ.ย. สหรัฐฯ : ยอดค้าปลีก เดือนตุลาคม (MoM) โดยคาดการณ์ที่ -0.3% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 0.7%
- 17 พ.ย. ยุโรป : เงินเฟ้อ เดือนตุลาคม (YoY) โดยคาดการณ์ที่ 2.9% โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 4.3%
- หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทั่วโลก ได้เผชิญกับแรงเทขายมาตลอดในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา จากความกังวลต่ออัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดีตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว แนะนำ # LHGEQ กระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เน้นลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดี
- ระยะกลางถึงยาว จากตัวเลขเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้นมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 ทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรไม่น่าสูงขึ้นได้อีกมาก แนะนำ #LHHEALTH เหมาะกับตลาดทั้งขาลงและขาขึ้น มีสัดส่วนประมาณ 50% ใน pharmaceutical, healthcare services ที่ค่อนข้าง defensive
- การปรับลดวงเงินและแหล่งที่มาของเงินทุนที่เป็นการกู้ยืมแต่ต้องผ่านการพิจารณาของสภานั้น มีโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการลดวงเงินกู้ลงจะช่วยลดความกังวลของตลาดเกี่ยวกับหนี้และความเสี่ยงด้านเครดิต ในขณะเดียวกัน การจำกัดการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจะช่วยให้เงินสร้างประสิทธิภาพได้ไม่ต่างจากแผนเดิมในส่วนของกระเป๋าเงินดิจิทัล แนะนำ #LHGROWTH #LHMSFL จากความชัดเจนในแง่ของนโยบายกระเป๋าเงินดิจิตอลที่มีมากขึ้น
ที่มา LHFUND, CNBC, Investing.com, Bloomberg, ThaiPBS
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน