สรุปภาวะตลาด
"Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์
พร้อมส่งสัญญาณหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาด สู่ระดับ 5-5.25% พร้อมทั้งส่งสัญญาณหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมากว่า 10 ครั้ง ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยมีแถลงการณ์จากคณะกรรมการเฟดเกี่ยวกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้มีความเหมาะสมที่จะทำให้เฟดสามารถบรรลุกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ยังส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยงลงในปีนี้ โดยกล่าว่ามีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย การขึ้นค่าจ้างอาจมีแนวโน้มที่ลดลง และการเปิดรับตำแหน่งงานใหม่ลดลง แต่ไม่ได้มาพร้อมการว่างงานที่เพิ่มขึ้น โดยในแถลงการณ์ของคณะกรรมการเฟดยังย้ำว่า “ระบบธนาคารของสหรัฐฯยังคงมีความมั่นคง” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเฟดให้น้ำหนักกับการจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ โดยการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป และอาจจะยังไม่มีการเปลี่ยนนโยบบายในการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
- 10-May ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI MoM) เดือนเมษายน ตลาดคาดการณ์ว่าจะเติบโต 0.4% MoM จากตัวเลขเดือนมีนาคมที่อยู่ในระดับ 0.1%
- 11-May จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 245,000 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่ระดับ 242,000 คน
- 11-May ดัชนี้ราคาผู้ผลิตเดือนเมษายน (PPI MoM) ตลาดคาดการณ์เติบโต 0.3% MoM จากตัวเลขเดือนก่อนหน้าที่ -0.5% MoM
- ระยะสั้น ตลาดยังคงมีความผันผวนสูง จากภาพการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงของเฟดจนถึงสิ้นปี 2023 ซึ่งตรงกันข้ามกับตลาดที่คาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯที่จะเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนผ่านการเกิดวิกฤติในธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่งในสหรัฐฯ
- ระยะกลางยาว ยังคงมุมมองว่าการปรับตัวลงของตลาด จะเป็นโอกาสในการสะสม จากแรงกดดันในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึงจุดพีคแล้ว
- หุ้นไทย การกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง จะเป็นแรงหนุนให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น อีกทั้งการปรับตัวลงของดัชนี SET ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ Valuation มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แนะนำกองทุน LHSTRATEGY ที่จะลดความเสี่ยงในตลาดขาลง
- หุ้นจีน ถึงแม้ตลาดหุ้นจีนจะเผชิญความท้าทายจากมาตรการกีดกันทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ แต่จากการกลับมาเปิดประเทศของจีนทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจมีการขยายตัวเด่นในปีนี้ ประกอบกับนโยบายการเงินของจีนที่ค่อนข้างผ่อนคลายสวนทางกับประเทศอื่นๆที่มีนโยบายการเงินที่ตึงตัว อีกทั้ง Valuation ของตลาดหุ้นจีนยังอยู่ในระดับที่ราคามีความน่าสนใจในการลงทุน จึงแนะนำกองทุน LHCHINA ตามแนวโน้มการกลับมาเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้
ที่มา CNBC, Investing, RYT9, Reuters 7 พ.ค. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน