LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด



“เฟดเผยรายงานประชุม วิตกวิกฤตสภาพคล่องธนาคารระดับภูมิภาค
ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจไร้ทิศทาง”



 
• ตลาดสหรัฐฯได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ ได้แก่ ซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และเวลส์ ฟาร์โก โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และความวิตกที่ลดลงเกี่ยวกับปัญหาในระบบธนาคาร
• ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตสภาพคล่องของธนาคารระดับภูมิภาค ขณะที่สหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง อาทิ ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภคนั้น ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนพ.ค.
• ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากเข้าใกล้สู่ช่วงวันหยุดเนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ของไทย โดยวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ตลาดปรับตัวลง รับแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวในวันพฤหัสบดีและศุกร์
• US Bond Yield 2 และ 10 ปี อยู่ที่ 4.0% และ 3.4% ตามลำดับ ขณะที่ Dollar Index อยู่ที่ 101.62 จุด


 
• การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทชั้นนำต่าง ๆ อาทิ โกลด์แมนแซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, เน็ตฟลิกซ์ ตลอดจนธนาคารระดับภูมิภาคและบริษัทอุตสาหกรรม
• สัปดาห์หน้าจะเริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/66 ของบริษัทจดทะเบียนไทย นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์


 
• ตลาดหุ้นโดยรวมยังเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ อย่างไรก็ตามภาพเศรษฐกิจโลกที่ดูอ่อนแอมากขึ้นหลังเกิดความผันผวนของภาคธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้โอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) กลับมาเร่งตัวขึ้น นอกจากนี้การลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC+ ที่มากกว่าตลาดคาด ได้สะท้อนความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอยเช่นกัน ซึ่งท้ายที่สุดจะสร้างความยากลำบากให้แก่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ
• หุ้นต่างประเทศ ระยะสั้นตลาดอาจ sideway up ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆบ่งชี้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยสถิติในอดีตส่วนใหญ่ ช่วงเดือนเมษายนหุ้นจะเป็นบวก จึงแนะนำกองทุน LHSEMICON และ LHESPORT สำหรับโอกาสเพิ่มผลตอบแทนในช่วงที่ตลาดรีบาวนด์  และกองทุน LHCHINA สำหรับทยอยสะสมลงทุนในระยะกลาง/ยาว 
• หุ้นไทย ในระยะสั้นยังเชื่อว่าตลาดน่าจะสร้างจุดต่ำสุดไปแล้ว แม้เหตุการณ์ในตลาดโลกยังดูผันผวนค่อนข้างมาก จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และความไม่แน่นอนในภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป อย่างไรก็ตามปัจจัยภายในประเทศ เช่น ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนล่าสุด การปรับลดค่าไฟที่เป็นประโยชน์ต่อภาคการผลิต และตัวเลขสินเชื่อที่ยังเติบโตต่อเนื่อง เป็นแรงสนับสนุนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยองค์รวม ทั้งนี้การเลือกตั้งจะช่วยเสริมความคาดหวังทางด้านบวกได้ แนะนำกองทุน LHSTRATEGY ที่พอร์ตการลงทุนเป็น Low beta เพื่อช่วยลดความเสี่ยงหากสถานการณ์ตลาดโลกผันผวนมากขึ้น หรือ LHGROWTH เพื่อทยอยสะสมในกรณีที่ดัชนีปรับตัวลงแรง
• REITs เชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่เริ่มปรับตัวลงมาสู่ระดับปกติ จะช่วยลดแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. และช่วยให้ Dividend Yield Gap กลับมาขยายตัวอีกครั้งตามการเติบโตของอัตราการเช่าและเงินปันผลที่เติบโต ทั้งนี้ Dividend Yield Gap ในปัจจุบันยังอยู่ในโซนถูก

ที่มา LH Fund, Ryt9 16 เม.ย. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน




 


 

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ