สรุปภาวะตลาด
“สัปดาห์สุดท้ายของปี จะมีซานต้าแรลลี่เป็นของขวัญมั้ย?”
ธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่น (“BOJ”) ปรับเพิ่มช่วงการทำ yield curve control จาก -0.25% - 0.25% เป็น -0.25% - 0.50% ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่งสัญญาณสภาพคล่องตลาดการเงินที่ลดลงในอนาคต ขณะที่ GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ เติบโต 3.2% qoq มากกว่าคาดที่ 2.9% qoq และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่น้อยกว่าคาด บ่งบอกเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดย S&P500 และ Nasdaq ลดลง 0.2% และ 1.9% ตามลำดับ กดดันโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้นแรงและเร็วขานรับความกังวลสภาพคล่องลดลงหลัง BOJ ปรับช่วงการควบคุมอัตราดอกเบี้ยให้กว้างขึ้น หุ้นไทยปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 และ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.32% และ 3.75% ตามลำดับ พันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นแรงจากผลของ BOJ ขณะที่ Dollar Index ทรงตัวที่ 104.3 จุด
- ผลการประมูลพันธบัตรอายุ 2, 5 และ 7 ปี สหรัฐฯ หากต่ำกว่าครั้งก่อนหน้าแสดงว่านักลงทุนลดความกังวลการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (“FED”) ลง
- ยอดการขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ หากมากกว่าคาด แสดงถึงตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลง
- ระยะสั้น คาดสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสฟื้นตัว (Santa Rally) หลังปรับตัวลงต่อเนื่องใน 3 สัปดาห์ก่อนหน้า รับความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องและเศรษฐกิจถดถอยไปบางส่วนแล้ว
- ระยะกลางยาว ด้วยตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลงแรงในปีนี้จนทำให้ Valuation ลดลงมาจากต้นปีค่อนข้างมาก จึงมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมกองทุนหุ้น รวมถึง SSF, RMF เนื่องจากธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงในอนาคต
- หุ้นไทย ยังคงน่าสนใจลงทุนด้วยวัฏจักรเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้าหนุนโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติและการบริโภค และหากมองในระยะ 4 เดือนแรกของปีหุ้นปันผลเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
- หุ้นเวียดนาม แนะนำทยอยลงทุนระยะยาว 5 ปี ขึ้นไป เพื่อเติบโตไปกับเศรษฐกิจเวียดนาม
- หุ้นของบริษัทที่ปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
- ตราสารหนี้ระยะกลางยาวที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่ลดลง จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย
กองทุนแนะนำ
LHSTRATEGY, LHEQD, LHVN, LHDIVB, LHGINCOME
ที่มา LHFUND, Bloomberg, CNBC, Investing 25 ธ.ค. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน