LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด



"เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคมต่ำกว่าคาด แต่ Upside อาจเริ่มจำกัด"



เงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค (CPI) และผู้ผลิต (PPI) เดือนกรกฎาคมต่ำกว่าคาดจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่ค่าไฟฟ้า ราคาอาหาร และค่าเช่าที่อยู่อาศัยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



ตลาดหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ล้วนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นราว 3% สูงกว่าตลาดหุ้นยุโรป ญี่ปุ่น จีน และไทย ที่เพิ่มขึ้นราว 1% - 1.5% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ทั้ง 2 และ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.2% และ 2.8% ตามลำดับ


 
  • GDP growth ของไทยไตรมาส 2/2565 คาดเติบโต 2.8% yoy และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องหนุนโดยการท่องเที่ยว
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคมของจีน หากดีกว่าคาดจะลดความกังวลการเติบโตของจีน
  • บันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม และยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคม โดยหากยอดค้าปลีกดีกว่าคาด หรือต่ำกว่าคาดเล็กน้อยจะทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่ถดถอยเพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น

 
  • แม้เงินเฟ้อส่งสัญญาณผ่านจุดสูงสุด แต่ระวัง sticky inflation เนื่องจากค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าเช่าที่อยู่อาศัยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตอบรับข่าวดีแล้ว เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวราคาพลังงานมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นกดดันเงินเฟ้ออีกครั้ง ขณะที่ Earning Yield Gap ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้ upside เริ่มจำกัด
  • ยังต้องติดตามการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ยอดค้าปลีก และการจ้างงานอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าในระยะสั้นมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัว ล่าสุดคาดการณ์ GDP ไตรมาส 3/2565 ของ FED Atlanta คาดเพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสก่อน (ปรับเป็นรายปี)
  • แนะนำลงทุนอย่างระมัดระวัง ผู้ที่เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม อาจพิจารณาทำกำไรบางส่วน และรอสะสมเมื่อตลาดปรับตัวลงในช่วงเข้าใกล้ประกาศเงินเฟ้อสหรัฐฯ ช่วงต้นเดือนกันยายน หรือประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วงสัปดาห์ที่ 3 เดือนกันยายน ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ลงทุนพิจารณาทยอยลงทุนเมื่อตลาดปรับตัวลง
  • ประเทศที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการบริโภค รวมถึงยัง laggard และ valuation ไม่แพงเช่นไทย เวียดนาม น่าสนใจลงทุน กองทุนแนะนำเช่น
 
  • LHDIVB หุ้นปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
  • LHSELECT ลงทุนหุ้นไทยได้ประโยชน์จาก Theme reopening
  • LHGROWTH, LHMSFL ลงทุนหุ้นไทยที่มีโอกาสการเติบโตสูงในอนาคต
  • LHCYBER ได้ประโยชน์จากความต้องการด้าน cybersecurity ยังคงเพิ่มขึ้นในระยะกลางยาว
  • LHGINCOME ได้ประโยชน์จากการกลับมาลงทุนในตราสารหนี้ที่ yield ปรับตัวขึ้นมาในระดับที่น่าสนใจ
  • LHPROPIA สำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังเงินปันผล และลงทุนระยะยาวได้

ที่มา LH Fund 14 ส.ค. 65 
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน








 

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ