สรุปภาวะตลาด
"จับตาเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ หากขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยง"
ยอดการจ้างงานนอกภาคเอกชนเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ สูงกว่าคาดการณ์ ประกอบกับอัตราการว่างงานที่ต่ำกว่าระดับการจ้างงานเต็มที่ แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมาที่ 120 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง หลังแผนการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC ไม่ได้ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับความต้องการของตลาด
ผลจากความร้อนแรงในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนกลับมากังวลว่าจะเป็นสาเหตุให้ FED เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูงจะกดดันให้เงินเฟ้อลดลงช้ากว่าคาด ความกังวลดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนี ปรับตัวลงแรงในช่วงปลายสัปดาห์
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ ซึ่งหากเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง จะเป็นการยืนยันว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ลดแรงกดดันต่อ FED ในการขึ้นดอกเบี้ย
- จากสถิติ S&P500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วง 1 ปี หลังเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด 9 ใน 13 ครั้ง (หรือ 70%) และปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 33% ทำให้มองว่าเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้น
- คงคำแนะนำกระจายพอร์ทการลงทุน เพราะคาดว่าความผันผวนจะยังสูง กองทุนที่แนะนำได้แก่
- LHDIVB หุ้นปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
- LHMSFLเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลางขนาดเล็กที่มีโอกาสเติบโตสูง
- LHCYBERได้ประโยชน์จากความต้องการด้าน cybersecurity ที่เพิ่มขึ้นในระยะกลางยาว ราคาที่ปรับลงมามากเป็นโอกาสสะสม เหมาะสำหรับผู้ลงทุนได้ 1 ปี ขึ้นไป
- LHJAPAN คาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ประโยชน์จากการบริโภคที่ฟื้นตัวจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
- LHPROPIA กองทุนสู้เงินเฟ้อ เพราะขึ้นค่าเช่าได้ตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราการเช่าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดเศรษฐกิจ และมีเงินปันผลคาดหวังระดับสูงที่ 5%-6%
ที่มา LH Fund 5 มิ.ย. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน