สรุปภาวะตลาด
"เงินเฟ้อสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผ่านจุดสูงสุด เราวางใจได้หรือยัง และหุ้นกลุ่มใดน่าสนใจลงทุน?"
สัปดาห์ที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (“Core PCE”) ของสหรัฐฯ ขยายตัว 0.3% เทียบเดือนก่อนหน้า ทรงตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อเทียบเป็นรายปี Core PCE สหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าเช่นเดียวกัน ขณะที่จีนมีแนวโน้มเปิดเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีจะช่วยบรรเทาปัญหา supply shortage ได้ รวมถึงดัชนีเงินเฟ่อผู้ผลิต (“PPI”) เมื่อเทียบเป็นรายปีของจีนที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าหลักของโลกที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้หลายๆ คนมองว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และช่วยลดความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาดได้
อย่างไรก็ดีการที่ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นกว่า 70% ตั้งแต่ต้นปี และยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงอันเป็นผลมาจากการที่ชาติมหาอำนาจต่างๆ มีมาตรการลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย รวมถึงวัตถุดิบประกอบอาหาร หรือ Soft Commodities ต่าง ๆ เช่นข้าวสาลี และถั่วเหลือง รวมถึงปุ๋ย ที่ราคายังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงจนกว่าจนกว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะผ่อนคลายลง ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะส่งผลต่อเงินเฟ้อเช่น
เดียวกัน
แล้วในช่วงที่เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง และเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง หุ้นกลุ่มใดมีความน่าสนใจลงทุน แม้ว่าโดยปกติแล้วในช่วงที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง นักลงทุนจะให้มูลค่ากับหุ้นโดยรวมลดลง หรือที่เรียกว่า “devaluation” เป็นผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง แต่ยังคงมีหุ้นกลุ่มหนึ่งที่ทำผลงานได้ดีกว่าตลาดโดยรวมได้หุ้นกลุ่มนี้คือหุ้นปันผลสูง ขณะที่ในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงนั้นหุ้นของบริษัทที่จ่ายปันผลสูงและซื้อหุ้นคืน ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าตลาดโดยรวม ดังนั้นเราจึงมองว่ากองทุน LHDIVB ยังคงตอบโจทย์การลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงินในระยะถัดจากนี้
ที่มา LH Fund
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน