สรุปภาวะตลาด
"กองทุนใดยังลงทุนได้?..เมื่อตลาดหุ้นโลกยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง"
ผลประกอบการของ Walmart และ Target บริษัทค้าปลีกชื่อดังของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษและยูโรโซนยังเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางต่างๆ ต้องใช้นโยบายการเงินตึงตัว ในภาวะที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยมีมากขึ้น
ผลจากผลประกอบการห้างค้าปลีกในสหรัฐฯ และความกังวลเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลดลง โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงเกือบ 4% ขณะที่ผู้จัดการกองทุนถือครองเงินสดมากสุดนับตั้งแต่ปี 2001 แต่เริ่มเห็นการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหลังมีเม็ดเงินเข้าลงทุนเพราะผลตอบแทนน่าจูงใจ และมีความกังวลเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ และยุโรป เดือนพฤษภาคม ซึ่งหากอ่อนตัวลงจากเดือนก่อนหน้าน้อยกว่าคาดจะช่วยคลายกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- Core PCE ของสหรัฐฯ เดือนเมษายน หากเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด จะลดความกังวลการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวได้
- รายงานการประชุมคณะกรรมการธนาคารสหรัฐฯ เดือนพฤษภาคม
- ความกังวลเศรษฐกิจถดถอยหลังห้างค้าปลีกในสหรัฐฯ มีผลประกอบการแย่กว่าคาดอาจเกิดจากการเปลี่ยนความต้องการของผู้บริโภคจาก สินค้า ไปเป็น บริการ (เช่นการเดินทาง การท่องเที่ยว) เป็นต้น จึงมองว่าอาจเป็นความกังวลที่มากเกินไป และเกิด overreact ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ในระยะสั้นคาดว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม หลังนักลงทุนซึมซับข่าวร้ายไปมากแล้ว และเงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า แต่อาจเป็นการ rebound ในช่วง bear market
- ในระยะกลาง คาดว่าความผันผวนในตลาดหุ้นยังอยู่ในระดับสูงต่อไป จึงแนะนำกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อช่วยลดความผันผวนของพอร์ทการลงทุน หรือหุ้นกลุ่มที่ไม่ได้มีการปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา หรือมีความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังลูกค้าได้ และยังมีความต้องการอีกมากในอนาคต โดยมีกองทุนที่แนะนำได้แก่
- LHMSFL: หุ้นไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะกลางยาว การปรับตัวลงมาในช่วงที่ผ่านมามองว่าเป็นโอกาสในการทยอยเข้าลงทุน
- LHCYBER: หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากความต้องการด้าน cybersecurity ที่เพิ่มขึ้นในระยะกลางยาว เหมาะสำหรับผู้ลงทุนได้ 1 ปี ขึ้นไป
- LHPROPIA: มีความน่าสนใจจากค่าเช่าที่ปรับเพิ่มได้ตามอัตราเงินเฟ้อ อัตราการเช่าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดเศรษฐกิจ และdividend yield ระดับสูงที่ 5%-6%
- LHGOLD: เพื่อ hedging risks ที่กล่าวไปข้างต้นได้ แนะนำทยอยซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลง
- กองทุน IPO LHDIVB กองทุนที่เป็น All Weather Strategy จะช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนในช่วงที่ความผันผวนยังสูงได้
ที่มา LH Fund 22 พ.ค. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน