LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด





ตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?
ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแม้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณทำ QE Tapering เร็วกว่าคาด แต่จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสื่อสาร รวมถึงหุ้นที่มี market cap ขนาดใหญ่ ที่มีปัจจัยเฉพาะตัว และมี free float ต่ำเป็นต้น

มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้น
ยังมองว่า upside ของตลาดหุ้นยังค่อนข้างจำกัด หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นมามากตั้งแต่ช่วงต้นปี และนักลงทุนจะหันมาให้ความสำคัญกับความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมช่วงปลายเดือนมากขึ้น โดยหากยอดจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ออกมาน้อยกว่าคาด อาจเป็นแรงหนุนให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้ สำหรับตลาดหุ้นไทยมี upside จำกัดเช่นกัน และอาจมีแรงขายทำกำไรหากดัชนีปรับเข้าใกล้ระดับ 1,650 จุด หลังตลาดปรับตัวขึ้นมารวดเร็วและคาดหุ้นขนาดใหญ่อาจพักตัว และหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่กำไรยังสามารถเติบโตได้ หรือหุ้นที่ laggard จะกลับมาทำผลงานได้ดีกว่าตลาด

REITs
คาด REITs ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและมีสัดส่วนของ REITs ยุคใหม่ในสัดส่วนสูงจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีได้ในระยะยาว แต่ upside อาจเริ่มจำกัดในระยะสั้น ขณะที่ REITs กลุ่มประเทศประเทศกำลังพัฒนารวมถึงไทยมี downside risk ค่อนข้างจำกัด จากราคาที่ laggard โดยหากการฉีดวัคซีนก้าวหน้าจะเป็นปัจจัยหนุน REIT กลุ่มนี้ได้ และมีอัตราเงินปันผลที่สูงกว่าโดยเปรียบเทียบ


กลยุทธ์การลงทุน และกองทุนที่น่าสนใจ
มองว่าในระยะถัดจากนี้หุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ แต่ในช่วงเดือนนี้อาจมีการปรับฐานได้หากยอดจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด โดยหากเกิดการปรับตัวลง แนะนำให้ buy on dip ในกองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ผลิตภัณฑ์ยังมีความต้องการอยู่ในระดับสูง หุ้นของบริษัทที่จะได้รับผลดีเมื่อการกระจายวัคซีนทำได้ตามเป้าหมายและยัง laggard เช่น

LHSEMICON จากความต้องการ semiconductor ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง หนุนโดยการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5G connected devices ยานยนต์ไฟฟ้า และ ยานยนต์ไร้คนขับ โดยมี EPS growth สูงกว่า 20% yoy ในปีหน้า 
LHROBOTE ซึ่งจะได้ประโยชน์หากการระบาดของโรค COVID-19 สายพันธุ์เดลต้ายังเพิ่มต่อเนื่อง จะทำให้ความต้องการใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการผลิต และธุรกิจต่างๆ น่าจะเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทที่กองทุนลงทุน
LHCYBER ได้ประโยชน์จากการที่มูลค่าอุตสาหกรรม cybersecurity เติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปีตั้งแต่ 2019 – 2026 โดยเติบโตตามความต้องการใช้ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 25% - 40% เป็นต้น
LHJAPE นโยบายการคลังและการเงินยังผ่อนคลาย สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ Forward P/E ที่ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยระยะยาว ถูกกว่าสหรัฐฯ และยุโรป กำไรต่อหุ้นถูกปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจหากการกระจายวัคซีนทำได้ดีต่อเนื่อง
ความเสี่ยง: ตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาจมีการปรับฐานหากมีปัจจัยลบแม้เพียงเล็กน้อยเข้ามาในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้แนะนำลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุน


Key Event ในสัปดาห์นี้
ต่างประเทศ
การประชุมธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดว่าอาจมีการปรับลดความเร็วในการซื้อพันธบัตร หลังเงินเฟ้อคาดหวังของยูโรโซนทำสถิตสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี ซึ่งหากมีการปรับลดจริง จะเป็นการที่ธนาคารกลางขนาดใหญ่ทั้งจีน สหรัฐฯ และยุโรปทยอยลดการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

ภายในประเทศ
-อัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. 64
-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. 64

ที่มา LHFund 3 ก.ย. 64



กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ