สรุปภาวะตลาด

ROCKET LAB MISSION BRIEFING ปฏิบัติการพลิกโฉม! จาก "แท็กซี่อวกาศ" สู่ "มหาอำนาจด้านความมั่นคง"
สวัสดีครับชาวโลก (และนักลงทุนทุกท่าน)!
ถ้าคุณเคยรู้จัก Rocket Lab (RKLB) ในฐานะ "แท็กซี่อวกาศ" ที่คอยให้บริการส่งดาวเทียมเล็กๆ ขึ้นสู่วงโคจรล่ะก็... ขอให้ลบภาพจำนั้นไปก่อนได้เลยครับ เพราะตอนนี้พวกเขากำลังสลัดคราบเก่าและแปลงร่างเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากกว่านั้น! เหมือนกับตัวละครในหนังที่ค้นพบพลังที่แท้จริงของตัวเอง Rocket Lab กำลังก้าวเข้าสู่สมรภูมิใหม่ที่เดิมพันสูงกว่าเดิม นั่นคือการเป็น ผู้รับเหมาหลักด้านอวกาศและการป้องกันประเทศแบบครบวงจร
แล้วพวกเขาทำได้อย่างไร คำตอบอยู่ที่การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่เฉียบคมและสั่นสะเทือนวงการ นั่นคือการเข้าซื้อกิจการครั้งสำคัญ 2 แห่ง ที่เปรียบเสมือนการติดตั้ง "สุดยอดอาวุธ" ให้กับยานแม่ของพวกเขา
ลองนึกภาพว่า Rocket Lab กำลังสร้างหุ่นยนต์รบอวกาศที่สมบูรณ์แบบที่สุด พวกเขาขาดชิ้นส่วนสำคัญอยู่ 2 อย่าง และนี่คือสิ่งที่พวกเขาไป "ช้อปปิ้ง" มาครับ
1. Geost: การได้มาซึ่ง "ดวงตาเหยี่ยว" แห่งอวกาศ (ประกาศข้อตกลงเข้าซื้อวันที่ 27 พ.ค. 2568)
- มันคืออะไร Geost คือบริษัทโคตรเซียนด้านเซ็นเซอร์ตรวจจับด้วยแสงและอินฟราเรด (EO/IR) พูดง่ายๆ ก็คือ "ดวงตา" ที่มีประสิทธิภาพสูงลิ่ว สามารถมองเห็นและติดตามทุกอย่างได้จากอวกาศ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับความร้อนจากการยิงขีปนาวุธ หรือการสอดแนมความเคลื่อนไหวบนพื้นโลก
- ทำไมถึงสำคัญ ในโลกยุคใหม่ที่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ร้อนระอุ (ดูอย่างข่าวอิสราเอล-อิหร่านเป็นตัวอย่าง) ความสามารถในการ "เห็นก่อน รู้ก่อน" คือความได้เปรียบสูงสุด กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และพันธมิตรต่างต้องการ "ดวงตา" แบบนี้ไปติดไว้บนกลุ่มดาวเทียมของพวกเขาเพื่อป้องกันประเทศ การที่ Rocket Lab มี Geost อยู่ในมือ ก็เหมือนกับพวกเขาสามารถผลิต "ดวงตาเหยี่ยว" นี้ได้เองเลย!
- มันคืออะไร Mynaric คือผู้นำด้านเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยเลเซอร์ในอวกาศ แปลเป็นภาษาคนก็คือ "ระบบประสาท" ที่เชื่อมต่อดาวเทียมทุกดวงเข้าด้วยกันและส่งข้อมูลกลับมายังโลกด้วยความเร็วแสง
- ทำไมถึงสำคัญ การสื่อสารแบบเดิมๆ ผ่านคลื่นวิทยุอาจถูกรบกวนหรือ "แจม" สัญญาณได้ในสนามรบ แต่การสื่อสารด้วยเลเซอร์นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะแฮ็กหรือรบกวน มันปลอดภัยกว่า เร็วกว่า และส่งข้อมูลได้มหาศาลกว่ามาก นี่คือเทคโนโลยีที่กลุ่มดาวเทียมยุคใหม่ของกองทัพต้องการ และตอนนี้ Rocket Lab ก็เป็นเจ้าของเทคโนโลยีนี้แล้ว!
ก่อนหน้านี้ ถ้ากระทรวงกลาโหมอยากสร้างดาวเทียมสอดแนม พวกเขาต้องไปจ้างบริษัท A ทำ "ดวงตา" (เซ็นเซอร์) จ้างบริษัท B ทำ "ระบบประสาท" (ระบบสื่อสาร) แล้วค่อยมาจ้าง Rocket Lab ให้ทำหน้าที่เป็น "แท็กซี่" ไปส่ง
แต่ตอนนี้... Rocket Lab สามารถพูดได้เต็มปากว่า "เดี๋ยวเราจัดการให้ทั้งหมด!"
พวกเขาสามารถสร้างดาวเทียมที่สมบูรณ์แบบได้ในที่เดียว (One-Stop Shop) ตั้งแต่โครงสร้างยาน, แผงโซลาร์เซลล์, ระบบสมองกล, "ดวงตา" จาก Geost, "ระบบประสาท" จาก Mynaric ไปจนถึงการยิงจรวดส่งขึ้นไปเอง นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "การบูรณาการแนวดิ่ง" (Vertical Integration) ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับที่ทำให้ SpaceX ยิ่งใหญ่มาแล้ว
ข้อดีมหาศาลคือ
- ลดต้นทุนและเวลา ไม่ต้องวุ่นวายกับซัพพลายเออร์หลายเจ้า ทำให้สร้างและส่งมอบได้เร็วขึ้น
- เพิ่มกำไร จากที่เคยได้แค่ค่าส่ง ตอนนี้พวกเขาได้กำไรจากชิ้นส่วนไฮเทคทุกชิ้น ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจปล่อยจรวดหลายเท่าตัว!
- ความได้เปรียบในการแข่งขัน กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับลูกค้ารายใหญ่อย่างกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ตลาดหุ้นย่อมไม่พลาดที่จะสังเกตเห็น!
- ราคาหุ้นพุ่งทะยาน ทันทีที่มีการประกาศซื้อกิจการ Geost (ประกาศข้อตกลงเข้าซื้อวันที่ 27 พ.ค. 2568) หุ้น RKLB ก็พุ่งขึ้นไปกว่า 13% ในวันเดียวกัน! นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่านักลงทุน "ถูกใจสิ่งนี้" พวกเขามองเห็นภาพใหญ่ที่ Rocket Lab กำลังสร้าง และพร้อมที่จะเดิมพันกับอนาคตใหม่นี้
- เสียงเชียร์จากวอลล์สตรีท เหล่านักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ต่างออกมาวิเคราะห์ในเชิงบวกอย่างท่วมท้น
- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ แนะนำ "ซื้อแข็งแกร่ง" (Strong Buy) หรือ "ซื้อ" (Buy)
- ราคาเป้าหมาย นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่าราคาหุ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้ามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นไปได้อีกมาก โดยคาดการณ์กันไว้ในกรอบที่ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่ประมาณ 36 ดอลลาร์ ต่อหุ้น
ความเสี่ยงและความหวัง
แน่นอนว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และการเดิมพันครั้งใหญ่ของ Rocket Lab ก็เช่นกัน
- ความหวัง (The Bull Case) ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน Rocket Lab จะกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในอุตสาหกรรมความมั่นคงของสหรัฐฯ รับงานโครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และสร้างกำไรได้อย่างมหาศาล
- ความเสี่ยง (The Bear Case) หัวใจสำคัญที่เหลืออยู่คือ จรวด Neutron ซึ่งเป็นจรวดขนาดกลางรุ่นใหม่ที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่ จรวดลำนี้จำเป็นต้องสร้างให้เสร็จและปล่อยให้สำเร็จตามกำหนดเวลา (เป้าหมายคือปี 2025) เพื่อรองรับการส่งกลุ่มดาวเทียมขนาดใหญ่ที่พวกเขาจะสร้างขึ้นมา หากโครงการนี้ล่าช้า อาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินและความสามารถในการแข่งขันได้
Rocket Lab ได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ พวกเขาไม่ได้แค่เล่นเกมเดิมให้ดีขึ้น แต่กำลังเปลี่ยนไปเล่นในเกมใหม่ที่ใหญ่กว่าและมีรางวัลสูงกว่าหลายเท่า การเข้าซื้อกิจการ Geost และ Mynaric คือการประกาศก้องว่าพวกเขาพร้อมแล้วสำหรับเวทีระดับโลก สำหรับนักลงทุน นี่คือเรื่องราวการเติบโตที่น่าตื่นเต้นที่สุดเรื่องหนึ่งในตลาดหุ้นตอนนี้ การเดินทางครั้งนี้ยังอีกยาวไกลและมีความท้าทายรออยู่ แต่ถ้าพวกเขาทำสำเร็จ... เราอาจกำลังได้เห็นการกำเนิดของยักษ์ใหญ่แห่งวงการอวกาศรายต่อไป ที่จะทะยานขึ้นไปเคียงข้าง SpaceX ก็เป็นได้ จับตาดูช่วง 12-18 เดือนข้างหน้านี้ให้ดี เพราะมันจะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Rocket Lab! การลงทุนผ่านกองทุน LHSPACE จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการเข้าร่วมกระแสการเติบโตของเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่ง LHSPACE ลงทุนใน Neuberger Berman Next Generation Space Economy Fund (“กองทุนหลัก”) เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับประโยชน์ จากเศรษฐกิจอวกาศ หรือกิจการอวกาศในอนาคต โดยกองทุนหลักมีสัดส่วนการลงทุนใน Rocket Lab USA, Inc. อยู่ 5.58% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2568)
Souzrce:optics.org, govconwire, kratosdefense, marketbeat, businesswire
Data as of June 16, 2025
- ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- เนื่องจากกองทุน ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุน เริ่มแรกได้
- ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต