LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด



ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนม.ค. สูงกว่าคาด กดดันให้ Fed อาจคงดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานขึ้น
 
  • Headline CPI เพิ่มขึ้น 3.0% YOY และ Core CPI เพิ่มขึ้น 3.3% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทั้งนี้เนื่องจากต้นทุนที่อยู่อาศัย พลังงาน และอาหารที่เพิ่มขึ้น
  • โดยต้นทุนที่อยู่อาศัย (Shelter) ซึ่งคิดเป็นเกือบ 30% ของการเพิ่มขึ้นของ CPI รายเดือน ปรับขึ้น 0.4% เนื่องจาก ค่าเช่าและค่าเช่าที่อยู่อาศัยเทียบเท่าเจ้าของบ้าน (OER) เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ต้นทุนพลังงาน (Energy) ปรับขึ้น 1.1%  ขณะที่ ราคาอาหารปรับขึ้น 0.4% โดยเฉพาะราคาไข่ไก่
 
การตอบสนอง และมุมมองของตลาด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 8 basis points ไปอยู่ที่ 4.63%
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงนำโดยดัชนี Dow Jones โดยปิดที่ 44,368.56 ลดลง -0.50% ขณะที่
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,051.97 ลดลง -0.27% ทางด้าน Nasdaq เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ปิดที่ 19,649.95 หรือบวก 0.03% เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงมีความยืดหยุ่นต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูง เนื่องจากโครงสร้างหนี้ที่ต่ำ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่หรือ Mega-Cap
  • ทั้งนี้ ตัวเลข CPI ซึ่งส่งผลให้เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ห่างไกลไปอีก ทำให้ตลาดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed ช้าลง สอดคล้องกับที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed กล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากปี 2024 Fed ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงไปแล้ว 1% และเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง และนายพาวเวลล์ย้ำว่า Fed ต้องการให้มาตรการนโยบายการเงินยังคงอยู่ในระดับ "เข้มงวด"
  • ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกมากล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยควรลดลง ควบคู่ไปกับมาตรการด้านการค้า
 
แนวโน้มการลงทุนและกลยุทธ์การลงทุน  
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนม.ค. มักจะออกมาสูงกว่าค่าเฉลี่ย เนื่องจาก ปัจจัยด้านฤดูกาล (Seasonality) และการปรับราคาของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในระยะต่อไปบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้ออาจมีโอกาสชะลอลง โดยได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของ เงินเฟ้อในหมวดที่อยู่อาศัย (Shelter Inflation) เนื่องจากค่าเช่าและค่าเช่าที่อยู่อาศัยเทียบเท่าเจ้าของบ้าน (OER) เริ่มมีสัญญาณอ่อนตัวลง โดยในเดือนม.ค. 2025 เพิ่มขึ้นเพียง 0.31% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ ราคาพลังงานมีแนวโน้มทรงตัวเนื่องจากความพยายามที่จะยุติสงครามในยูเครนของประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีปูติน

     ดังนั้น เรามองว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีโอกาสอยู่จากเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่งและนโยบายเชิงสนับสนุนของประธาธิบดีทรัมป์ แม้ Fed จะยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ววันนี้
  • กลยุทธ์การลงทุนที่มีลักษณะ Balanced Portfolio กล่าวคือ ลงทุนทั้งในกลุ่มกองทุนที่มี หุ้น Defensive หรือหุ้นกลุ่ม Healthcare หรือหุ้นกลุ่ม Consumer Staples ซึ่งแนวโน้มที่มีรายได้สม่ำเสมอแม้ในสภาวะตลาดที่ผันผวน และหุ้นกลุ่ม Growth ซึ่งได้แก่ หุ้นเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง รวมถึง กลยุทธ์กระจายการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต
กองทุนแนะนำ 
  • LHGEQ: กองทุนหุ้นโลกที่เน้นลงทุนแบบผสมผสานในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการทำกำไรและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
  • LHMEGA: กองทุนหุ้นโลกที่เหมาะกับช่วงที่ภาคเทคโนโลยีโดยเฉพาะ AI ที่กำลังเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์มีแนวโน้มสนับสนุนกลุ่มเทคโนโลยีผ่านการลดภาษีและนโยบายที่ช่วยเหลือบริษัทอเมริกัน
  • LHDIVB: กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
 
Source: CNBC, Yahoo Finance as of 13 Feb 25

ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
เนื่องจากกองทุน ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต









 

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ