LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด



ทรัมป์รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เซ็น Executive Orders ทันที ตลาด Emerging Market เปิดผันผวนเช้านี้

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ อเมริกา ลงนามในคำสั่งบริหารหลายฉบับเมื่อเช้านี้ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกนโยบายของโจ ไบเดนจำนวน 78 ฉบับ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเข้ารับตำแหน่ง โดยคำสั่งต่างๆ ๆ ที่ลงนามในวันนี้มีเป้าหมายเพื่อปราบปรามการอพยพเข้าเมือง รวมถึงการถอนตัวของสหรัฐฯ จากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและองค์การอนามัยโลก (WHO)
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังกล่าวว่า วางแผนจะบังคับใช้ภาษีศุลกากรที่เคยขู่ไว้ว่าสูงถึง 25% ต่อเม็กซิโกและแคนาดาภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยย้ำว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองกำลังปล่อยให้มีการไหลเข้าของผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารและยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ อีกทั้ง ทรัมป์ยังกล่าวว่าเขากำลังพิจารณาภาษีศุลกากรแบบครอบคลุมต่อการนำเข้าทั้งหมด แต่ยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการในขณะนี้
การตอบสนอง และมุมมองของตลาด 
  • เมื่อค่ำวานนี้ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก เนื่องจากช่วงแรกของพิธีรับตำแหน่ง ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ยังไม่มีการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรต่อคู่ค้าสหรัฐฯ ในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ของ Bloomberg -1.2% และค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้น +1.4%
  • ขณะที่ เช้านี้ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาด้วยมีความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายของทรัมป์ จากคำขู่เกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรต่อเม็กซิโกและแคนาดาในช่วงท้ายของพิธี ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ของ Bloomberg กลับเป็น +0.7 % หลังคำแถลง โดยดัชนี Nikkei 225 เปิดตลาดในแดนลบก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง เปิดตลาดเพิ่มขึ้น +0.07% และ ดัชนี CSI300 ของจีนเริ่มต้นด้วยการปรับตัวลดลงก่อนจะฟื้นตัวในเวลาต่อมา
แนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุน
นักลงทุนอาจต้องจับตามองทาสทีและมาตรการเพิ่มเติม โดยแม้จะมีจากคำขู่เกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรต่อเม็กซิโกและแคนาดา และทรัมป์ยังไม่แสดงความชัดเจนเรื่องภาษีจีนในวันแรกอาจเป็นสัญญาณบวก แต่ก็อาจเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เนื่องจากทรัมป์มักมีนโยบายที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังระบุว่าเขาอาจเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมหากรัฐบาลปักกิ่งปิดกั้นการขายแอป TikTok ให้แก่บริษัทสหรัฐฯ  โดยแนะนำ กลยุทธ์การลงทุนที่มีลักษณะ Balanced Portfolio กล่าวคือ ลงทุนทั้งในกลุ่มกองทุนที่มี หุ้น Defensive หรือหุ้นกลุ่ม Consumer Staples ซึ่งแนวโน้มที่มีรายได้สม่ำเสมอแม้ในสภาวะตลาดที่ผันผวน และ หุ้นกลุ่ม Growth ซึ่งได้แก่ หุ้นเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง รวมถึง กลยุทธ์กระจายการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต
 

กองทุนแนะนำ

  • LHMEGA: กองทุนที่เหมาะกับช่วงที่ภาคเทคโนโลยีโดยเฉพาะ AI ที่กำลังเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์มีแนวโน้มสนับสนุนกลุ่มเทคโนโลยีผ่านการลดภาษีและนโยบายที่ช่วยเหลือบริษัทอเมริกัน
  • LHDIVB: กองทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูงทั่วโลก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
  • LHUSFIN: กองทุนน่าจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายทรัมป์ที่มุ่งผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้กับธนาคารและบริษัทการเงิน เช่น การลดข้อกำหนดที่เป็นภาระ ช่วยให้บริษัทการเงินมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การที่ทรัมป์หนุนการบริโภคในประเทศจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มนี้
  • LHSPACE: เป็นกองทุนทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจอุตสาหกรรมอวกาศและเทคโนโลยีอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์ให้การสนับสนุนภาคเอกชน เช่น SpaceX ของอีลอน มัสก์ ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ลดต้นทุนการปล่อยจรวดและขยายบทบาทในโครงการสำรวจอวกาศ
 Source: CNBC, CNN, Bloomberg







 

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ