LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด






ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ สะท้อนภาพ Soft landing , พร้อมการเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนนี้

สรุปเหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
  • ดัชนี Dow +0.9% S&P 500 +0.2% Nasdaq -0.9% จากตัวเลขเศรษฐกิจที่สะท้อนภาพ soft landing ของสหรัฐ โดย GDP ไตรมาส 2 ออกมาที่ 3% q-q สูงกว่าครั้งก่อนที่ 2.8% และ PCE Price Index ออกมาที่ 2.5% y-y ตามที่คาดการณ์ ขณะที่แรงขายใน Nvidia ที่กำไรออกมาดีกว่าคาดแต่ความกังวลที่ AI chips Blackwell อาจออกมาช้ากว่าคาดทำให้ Nasdaq ปรับลงจากสัปดาห์ก่อน
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยตลาดได้มีการตอบรับในเชิงบวก หลังจากที่นาย Jerome Powell ได้มีการแถลงที่การประชุม Jackson Holes ว่า Fed นั้นมีความพร้อมที่จะเริ่มเปลี่ยนวัฎจักรดอกเบี้ยเป็นขาลงแล้ว โดยมีความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง และมีความกังวลต่อตลาดแรงงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตลาดได้คาดการณ์ว่า Fed จะทำการลดดอกเบี้ยได้ราวๆ 1% ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ และมีโอกาสที่ลดดอกเบี้ยอีก 1-1.25% ในปี 2025 และปรับดอกเบี้ยกลับไปที่จุดสมดุลที่ราวๆ 2.5-3.0% แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq นั้นได้มีการปรับตัวลดลงในช่วงวันที่ 26-29 ส.ค. ซึ่งหลักๆ เกิดจากแรงเทขายของหุ้น Nvidia ที่ปรับตัวลดลงถึง 8.4% หลังจากที่ประกาศผลกำไรในไตรมาส 2 ซึ่งมีการเติบโตถึง 150% y/y แต่อย่างไรก็ตาม ผลกำไรดังกล่าวนั้น ออกมาสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์เพียง 5% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส โดยนักลงทุนบางส่วนนั้นมองว่า Nvidia นั้นอาจจะไม่ได้มีผลกำไรที่น่าตื่นเต้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4 แต่กำไรจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2025 หลังจากที่กำลังการผลิตของชิป AI ตัวใหม่ อย่าง Blackwell ได้มีการผลิตและจำหน่ายอย่างเต็มที่ในปีหน้า
  • ตลาดหุ้นยุโรป, ญี่ปุ่น, จีน และฮ่องกง ได้มีการฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 ได้มีการปรับขึ้นจากระดับ 2.8% เป็น 3.0% โดยเฉพาะภาคการบริโภคที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ลดความกังวลต่อความน่าจะเป็นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก โดยภาคอุตสาหกรรมในช่วงท้ายปี 2024 และปี 2025 นั้นมีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด และผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยทั่วโลกที่กำลังจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในปีหน้า นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มอสังหาฯของจีนนั้น ได้มีการฟื้นตัวเป็นอย่างมาก หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ให้ผู้ที่มีสินเชื่อบ้านสามารถไปทำการ Re-finance เพื่อรับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงได้ เป็นวงเงินกว่า 5 ล้านล้านหยวน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กับประชาชน
  • ตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่แล้ว SET +4.2 จุด (+0.3%) สู่ระดับ 1359.07 จุด เป็นการปรับขึ้น 3 สัปดาห์ ต่อเนื่องกัน จาก Fed Powell ที่ dovish ในสัปดาห์ก่อน และตัวเลขการส่งออกที่ดีกว่าคาด

    

2 กันยายน: จีน Caixin PMI ภาคการผลิต (สิงหาคม) คาดว่าอยู่ที่ 49.9 โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 49.8
3 กันยายน: สหรัฐ ISM ภาคการผลิต (สิงหาคม) คาดว่าอยู่ที่ 47.5 โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 46.8
5 กันยายน: สหรัฐ ISM ภาคบริการ (สิงหาคม) คาดว่าอยู่ที่ 51.0 โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 51.4
6 กันยายน: สหรัฐ การจ้างงานนอกภาคเกษตร (สิงหาคม) คาดว่าอยู่ที่ 165k โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 114k
6 กันยายน: สหรัฐ อัตราการว่างาน (สิงหาคม) คาดว่าอยู่ที่ 4.2% โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 4.3%


  • LHGEQ มีกลยุทธ์การลงทุนใน Quality Growth Stock และบริหารแบบเชิงรุก เน้นคัดหุ้นที่มีคุณภาพและแนวโน้มการเติบโตของกำไรในหุ้นทั่วโลก  โดยเน้นการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยหุ้นมีลักษณะผสมผสานทั้ง Growth , Quality และ Value ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดในระยะยาว
  • LHHEALTH ในช่วงที่ตลาดเผชิญความผันผวนจาก Valuation ของหุ้นที่ตึงตัว และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย , ซึ่งกลุ่ม Healthcare มีค่าเบต้าที่ระดับ 0.6-0.7 ทำให้มีลักษณะความเป็น Defensive สามารถเผชิญกับความผันผวนของตลาดได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม
  • LHDIVB ความผันผวนของตลาดจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่ใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง DIVB ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน และหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น และการซื้อหุ้นคืนในตลาด และ หุ้นใน Theme value, cyclical, defensive ที่เริ่มเห็น การกลับเข้ามาซื้อตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
Source: LHFUND, LHSEC, CNBC, UOB Kay Hian, Tisco

ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ