LAND AND HOUSES FUND MANAGEMENT CO.,LTD

ข่าวสารและกิจกรรม

สรุปภาวะตลาด





S&P 500 ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน

เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 โดยในสัปดาห์นี้ตลาดได้เริ่มมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ อาทิเช่น Microsoft, Apple, Alphabet และ Amazon หลังจากที่ราคาหุ้นได้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนพ.ย. ในขณะที่หุ้นที่อยู่ในกลุ่ม Laggards อาทิเช่น กลุ่ม Oil & Gas, Regional Banks, Clean energy และหุ้นในกลุ่ม Russell 2000 และกลุ่มเทคโนโลยีขนาดเล็ก ได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3-7% ในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯรุ่นอายุ 2 และ 10 ปี (ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่สำคัญในตลาดโลก) ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ระดับ 4.60% และ 4.26% ตามลำดับ หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯเดือนม.ค. ได้ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% m/m และ 3.1% y/y (สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% m/m และ 2.9% y/y) โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาค่าเช่าบ้านที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขค้าปลีก Retail Sales เดือนม.ค. นั้นได้ปรับตัวลดลง 0.8% m/m (ต่ำกว่าที่ตลาดคาด -0.2% m/m) ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่สำคัญ ที่บ่งชี้ว่าการบริโภคในสหรัฐฯนั้นเริ่มชะลอตัวลงจากช่วง High season ในช่วงสิ้นปี 2023
  • ตลาดหุ้นจีนได้ปิดทำการในสัปดาห์นี้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ตลาดหุ้นฮ่องกง ได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมากต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนนั้นได้กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งจากการคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินกว่า 1-3 ล้านล้านหยวน จากกองทุนของรัฐบาล, รัฐวิสาหกิจ, Insurance, Pension funds และอื่นๆ ที่จะเข้ามาช้อนซื้อหุ้นในตลาด ซึ่งถือเป็นสัญญาณสำคัญที่รัฐบาลจีนนั้น เริ่มตื่นตัวกับการเข้ามาช่วยสถานการณ์ในตลาดหุ้นมากกว่าปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนนั้นยังคงมีความคาดหวังที่ต่ำต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน โดยเศรษฐกิจจีนจะยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืดในระยะยาวที่ยังคงต้องการยาแรงในการแก้ไข
  • ตลาดหุ้นไทย SET -0.2% สู่ระดับ 1386.27 จุด จากเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นมากกว่าคาดของสหรัฐ ทำให้ความหวังของดอกเบี้ยนโยบายของไทย ที่จะปรับลงในปีนี้ช้าออกไป โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง
  
19 ก.พ. ไทย GDP (4Q) (QoQ) คาดว่าอยู่ที่ 2.5% โดยไตรมาสก่อนอยู่ที่ 1.5%
19 ก.พ. สหรัฐ ปิดทำการ เนื่องในวัน Presidents' Day
21 ก.พ. สหรัฐ ผลการประชุม FOMC
21 ก.พ. สหรัฐ NVIDIA ประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 4/2566 คาดการโต 118%
22 ก.พ. สหรัฐ PMI ภาคการผลิต (กุมภาพันธ์) คาดว่าอยู่ที่ 50.1 โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 50.



 
  • LHGEQ มีกลยุทธ์การลงทุนใน Growth Stock และบริหารแบบเชิงรุก เน้นคัดหุ้นเติบโตที่เป็นอนาคตใหม่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาหุ้น ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคของ S&P 500 Index ที่ปิดเหนือ All time high เราจึงมองว่าหุ้นในกลุ่ม Big/Mid Cap , Growth มีโอกาสไปต่อได้อีก
Source: LHFUND, LHSEC, CNBC, UOB Kay Hian, Tisco
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


กรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ