สรุปภาวะตลาด
S&P 500 ยังคง All Time High ปิดที่ 5026 จุด ส่วนตลาดหุ้นจีนเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว
เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงสามารถยืนในระดับที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ต่อเนื่อง Dow 0.1%, S&P 500 1.4% และ Nasdaq 2.3% โดยมีปัจจัยที่สำคัญอาทิเช่น ตัวเลขการจ้างงาน Non-farm payrolls เดือนม.ค. มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และระดับค่าจ้างที่ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% m/m และ 4.5% y/y ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากปี 2023 มายังต้นปี 2024 ซึ่งได้ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ต่างๆ นั้นได้เริ่มปรับลดความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯในปีนี้จะเกิดภาวะ Recession (เศรษฐกิจถดถอย) ลง
- ตลาดหุ้นจีน และฮ่องกง ได้มีการฟื้นตัวแรงในสัปดาห์นี้ หลังจากที่มีข่าวว่าทางปธน.สีจิ้นผิง นั้นได้ประกาศออกคำสั่งให้กองทุนของทั้งรัฐบาล, รัฐวิสาหกิจ, Insurance, Pension funds และอื่นๆ ได้เข้ามาช้อนซื้อหุ้นในตลาด ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่รัฐบาลจีนนั้นเริ่มตื่นตัวกับการเข้ามาช่วยสถานการณ์ในตลาดหุ้น และเศรษฐกิจมากกว่าไตรมาสที่แล้ว โดยนักลงทุนจะยังคงจับตามองเม็ดเงินของกองทุนรัฐบาลที่เข้ามาซื้อว่าจะมีปริมาณมากน้อยแค่ไหน และจะมีมาตรการเพื่อแก้ไขวิกฤตความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนตามมาได้จริงหรือไม่ โดยจะจับตามองการประชุมของรัฐบาลที่สำคัญในช่วงเดือนมี.ค.นี้
- ตลาดหุ้นไทย SET +0.3% สู่ระดับ 1388.37 จุด จากความหวังของดอกเบี้ยนโยบายของไทย ที่จะปรับลงในปีนี้และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีน
12 ก.พ. MSCI Rebalance - BANPU BJC และ OSP จะถูกปรับออก โดยไม่มีหุ้นที่ถูกปรับเข้า
13 ก.พ. สหรัฐ เงินเฟ้อ (มกราคม) (YoY) คาดว่าอยู่ที่ 2.9% โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 3.4%
14 ก.พ. ยุโรป GDP (4Q) (QoQ) (มกราคม) คาดว่าอยู่ที่ 0.0% โดยไตรมาสก่อนอยู่ที่ 0.0%
15 ก.พ. สหรัฐ ยอดค้าปลีก (มกราคม) (MoM) คาดว่าอยู่ที่ -0.2% โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 0.6%
- LHGEQ มีกลยุทธ์การลงทุนใน Growth Stock และบริหารแบบเชิงรุก เน้นคัดหุ้นเติบโตที่เป็นอนาคตใหม่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาหุ้น ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคของ S&P 500 Index ที่ปิดเหนือ All time high เราจึงมองว่าหุ้นในกลุ่ม Big/Mid Cap , Growth มีโอกาสไปต่อได้อีก
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน