สรุปภาวะตลาด
เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดการเงินโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมามีดังต่อไปนี้
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ หรือ FOMC มีมติเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5% ในการประชุมวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่จากภาพคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการ FOMC ผ่าน dot plot พบว่าคณะกรรมการส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ยลงมากขึ้นในปีหน้า โดยจากเดิมคณะกรรมการ FOMC มองอัตราดอกเบี้ยปลายปี 2024 จะอยู่ที่ 5.1% ได้มีการปรับประมาณการณ์ลงมาที่ 4.6% สะท้อนว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปีหน้า จากเดิมที่คาดว่าปรับลดเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ทำให้ในสัปดาห์ดัชนี S&P500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 114.82 จุด (+2.49%)
- ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET Index ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.04 จุด (+0.73%) มาที่ 1,391.03 จุด จากอานิสงค์การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลาย โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยสุทธิ 5.4 พันล้านบาท ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
- 18 ธ.ค. ญี่ปุ่น: การประชุมธนาคารกลาง คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1%
- 19 ธ.ค. ยุโรป: เงินเฟ้อ เดือนพฤศจิกายน YoY คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.4% โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 2.9%
- 21 ธ.ค. สหรัฐฯ: GDP 3Q QoQ คาดว่าอยู่ที่ระดับ 5.2% โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 2.1%
- 22 ธ.ค. สหรัฐฯ: PCE Deflator เดือนพฤศจิกายน YoY คาดว่าอยู่ที่ระดับ 2.8% โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 3.3%
- หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทั่วโลก ได้มีการฟื้นตัวเป็นอย่างมากในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากความคาดหวังต่ออัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปยังปี 2024 โดย ณ ปัจจุบัน ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นเริ่มที่จะเข้าสู่เขต “Overbought” (ซื้อมากเกินไป) เล็กน้อย โดยตลาดนั้นอาจจะมีแรงขายทำกำไรของนักลงทุนระหว่างทางบ้างในเดือนธ.ค. ทางเรานั้นคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงาน, เงินเฟ้อ และตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ จะมีการชะลอตัวลงต่อเนื่องในเดือนธ.ค. เช่นเดียวกับ จากการที่คณะกรรมการ Fed นั้นเริ่มส่งสัญญาณถึงการสิ้นสุดของวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้น และจะเริ่มปูทางไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 ซึ่งจะยังคงเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไปยังสิ้นปีนี้ โดยในวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงนั้น มักที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีต่อตลาดตราสารหนี้ และหุ้นในกลุ่ม Growth
- แนะนำ LHGEQ จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าถึงจุดพีคแล้ว โดยการลงทุน ที่เน้นเลือกหุ้นรายตัวที่มีอีตราการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นผู้นำตลาด ในแต่ละอุตสากรรม ในแต่ละประเทศและมีอัตราส่วนหนี้ต่ำ
- แนะนำ LHCYBER บริษัทที่มีรายได้จากธุรกิจ Cybersecurity ที่เกี่ยวกับ software และ Cloud ยังมีความน่าสนใจ และมีโอกาสเป็น Megatrend ที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายในหุ้นกลุ่ม Cyber Security นั้นจะเติบโตในอัตรา 20-25% ในอีกปี 2024
ที่มา LHFUND, CNBC, UOB Kay Hian, Bloomberg, ThaiPBS
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
