สรุปภาวะตลาด
นักลงทุนคาดว่าเฟดใกล้หยุดปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นแล้ว
- นักลงทุนคาดว่าเฟดใกล้หยุดปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นแล้ว หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ออกมา +3% YoY ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 ปี ในขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) +0.1% YoY โดยตัวเลขที่เฟดให้ความสำคัญอย่าง Super Core CPI ซึ่งไม่รวมหมวดอาหาร พลังงาน และที่พักอาศัย ได้ชะลอตัวลงต่ำกว่า 3% มาอยู่ที่ระดับ 2.8% YoY ในขณะที่เงินเฟ้อในกลุ่มที่พักอาศัยเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 7.8% YoY ในขณะที่เงินเฟ้อในกลุ่มอื่นๆชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
- โดยล่าสุดตลาดมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเฟดปลายเดือนกรกฎาคม สะท้อนผ่าน FedWatch tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 96% ที่เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ในรอบการประชุมปลายเดือนนี้
- การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 กรกฏาคมที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับความเห็นชอบเพียง 324 เสียง จากเสียงโหวตที่ต้องการ 376 เสียง ทำให้เสียงโหวตไม่เพียง โดยล่าสุดนายพิธาได้ออกมาประกาศเปิดทางให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากการโหวตในวันที่ 19 กรกฏาคมนี้ยังไม่สำเร็จ
- ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปรับตัวลง 2.4% และ 3.3% ตามลำดับ จากตัวเลข CPI และ PPI ที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาด ทำให้ตลาดคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดว่าจะเหลือเพียง 1 ครั้งในรอบการประชุมเดือนกรกฏาคมนี้
- สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27.41 จุด หรือ 1.8% สู่ระดับ 1,517.92 จุด หลังจากคุณพิธาไม่ได้รับรองเป็นนายก จากการลงมติผ่านสภาอีกทั้งยังไม่มีความรุนแรง
- 17-July จีน GDP (2Q) คาดว่าอยู่ที่ระดับ 7% YoY โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 4.5% YoY
- 18-July สหรัฐฯยอดค้าปลีกเดือนมิถุนายน คาดว่าอยู่ที่ระดับ 0.5% MoM โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 0.3% MoM
- 19-20-July ไทย เลือกนายกรัฐมนตรี โดยรัฐสภา
- 19-21-July ไทย ประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคาร
- 19-July ยุโรป เงินเฟ้อเดือนมิถุนายน คาดว่าอยู่ที่ระดับ 5.5% YoY โดยเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 3.2% YoY
- 21-July ญี่ปุ่นเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน คาดว่าอยู่ที่ 3.3% YoY โดยเอนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 3.2% YoY
- จากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมิถุนายนออกมาต่ำกว่าคาดและตัวบ่งชี้เงินเฟ้อหลายๆตัวเริ่มชะลอตัวลง ทำให้ตลาดมีแนวโน้มคลายความกังวลในประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่ม Growth แนะนำกองทุน #LHGEQ และ #LHCYBER