สรุปภาวะตลาด
MINT ผู้นำในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
หากเอ่ยถึงหุ้น MINT หรือบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูมากนัก แต่หากเอ่ยถึงชื่อแบรนด์โรงแรมหรือร้านอาหาร ที่อยู่ภายใต้บริษัทคาดว่าทุกคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น Sizzler, The Pizza Company, Swensen, Bonchon, Dairy Queen ธุรกิจโรงแรม เช่น โรงแรม Anantara, Avanni, NH Hotel และธุรกิจค้าปลีก เช่น Anello, Bossini, Chales & Keith เป็นต้น
ปัจจุบันกลุ่มไมเนอร์มีโรงแรมกว่า 531 แห่ง รวมไปถึงร้านอาหารกว่า 2,531 แห่ง และยังมีแบรนด์ค้าปลีกกว่า 80 แบรนด์ ในกว่า 63 ประเทศทั่วโลก ในส่วนของโครงสร้างรายได้พบว่า 74% มาจากรายได้ธุรกิจโรงแรม 21% มาจากธุรกิจในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ในขณะที่ธุรกิจค้าปลีกและอื่นๆมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 5% และหากดูในส่วนของโครงสร้างรายได้จะพบว่า รายได้มาจากในประเทศประมาน 21% ในขณะที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาน 79% เนื่องจาก MINT มีจำนวนห้องพักทั้งสิ้นกว่า 78,266 ห้อง โดยจากห้องพักทั้งหมด เป็นห้องพักในประเทศประมาน 5,571 ห้อง ในขณะที่เป็นห้องพักต่างประเทศกว่า 72,655 ห้อง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 93% ของ
ปริมานห้องพักทั้งหมด ซึ่งครอบคลุมกว่า 55 ประเทศ ใน 4 ทวีป ได้แก่ เอเชีย ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา
ปริมานห้องพักทั้งหมด ซึ่งครอบคลุมกว่า 55 ประเทศ ใน 4 ทวีป ได้แก่ เอเชีย ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา
MINT ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เริ่มเห็นภาพการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของรายได้และกำไร หลังจากประเทศต่างๆกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง รวมถึงอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว ที่ขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยมีผลประกอบการดังนี้
- ปี 2562 รายได้ 129,061 ล้านบาท กำไร 10,697 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้ 58,695 ล้านบาท ขาดทุน 21,407ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 76,211 ล้านบาท ขาดทุน 13,167 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 124,205 ล้านบาท กำไร 4,286 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานของ MINT ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากประเทศจีนกลับมาเปิดประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาคึกคักอีกครั้งนึง รวมถึงการเข้าสู่ High Season ของกลุ่มโรงแรมในยุโรป และต้นทุนในส่วนของค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มที่ลดลงอีกด้วย MINT เป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ที่มีความน่าสนใจในการลงทุน จากแนวโน้มการกลับมาเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้ภาคการบริโภคกลับมาขยายตัวอีกครั้ง รวมไปถึงอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศที่กลับมาฟื้นตัวได้ดีในปีนี้ ซึ่ง บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก็ไม่พลาดที่จะสร้างทางเลือกในการลงทุน นักลงทุนท่านใดสนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและค้าปลีก ก็สามารถลงทุนผ่านกองทุน LHGROWTH-A ได้ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสลงทุน
ที่มา: minor.com, set.or.th, settrade.com
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน