สรุปภาวะตลาด


“ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันจากภาพการเมือง”

ดัชนี SET ปรับตัวลดลงกว่า 46.46 จุด หรือคิดเป็น 3% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถูกกดดันจากประเด็นทางการเมือง จากภาพการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลที่ยังเผชิญกับความไม่แน่นอน อีกทั้งยังคงมีความกังวลต่อหุ้นที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายที่พรรคก้าวไกลได้หาเสียงไว้ แต่อย่างไรก็ดีท่าทีของพรรคก้าวไกลมีความประนีประนอมมากยิ่งขึ้น โดยในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้จะมีการแถลง MOU ของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เริ่มเห็นสัญญาณความชัดเจนในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยนายเควิน แมคคาร์ธี ซึ่งเป็นประธานผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯจะไม่ผิดนัดการชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงในเร็วๆนี้

- 22-May การแถลง MOU ของการจัดตั้งรัฐบาล
- 23-May ยุโรป PMI ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคม คาดว่าอยู่ที่ 46.2 ในขณะที่เดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 45.8
- 23-May สหรัฐ PMI ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคม คาดว่าอยู่ที่ 50.0 ในขณะที่เดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 50.2
- 25-May สหรัฐ GDP ไตรมาสที่ 1 โดยตลาดคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 1.1% QoQ
- 26-May สหรัฐ ดัชนีราคาพื้นฐาน PCE โดยตลาดคาดว่าอยู่ที่ 4.5% YoY เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 4.6% YoY

- ตลาดหุ้นไทยเผชิญความผันผวนจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังต้องรอดูความชัดเจนต่อไป แต่อย่างไรก็ดีคาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังการประกาศ MOU การจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ อีกทั้งเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีจากปีก่อน โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 3.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เติบโตเพียง 2.6% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาพการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัว แนะนำกองทุน LHGROWTH แนะนำทยอยสะสม เพื่ออิงกับแนวโน้มตลาดที่จะมีความชัดเจนของการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น
- REITs จากอัตราการเช่าที่สูงขึ้น และเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้ถึงจุดพีคแล้ว ทำให้แรงกดดันด้านอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นลดลงในกลุ่ม Property fund, REITs และ Infrastructure Fund แนะนำกองทุน LHPROPIA
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) มีแนวโน้มลดลง จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย แนะนำกองทุน LHDEBT
ที่มา CNBC, Investing, RYT9 21 พ.ค. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
