สรุปภาวะตลาด
"จับตาการประชุม FED ในสัปดาห์นี้ ชี้ชะตาการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี"
FED จะมีการจัดการประชุมในวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้ หากดูใน Fed Watch Tool ของ CME Group พบว่าตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็นระดับ 5.00-5.25% อยู่ที่ระดับ 94.5% ในขณะที่ตลาดมองว่าโอกาสการคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 5.5% เท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับระดับเงินเฟ้อที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลข Core PCE 1Q66 มีการขยายตัว 4.9% QoQ โดยเร่งตัวขึ้นจาก 4Q65 ที่ขยายตัว 4.4% และยังสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 4.7% สะท้อนภาพปัญหาเงินเฟ้อที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ความเสี่ยงในการเกิด Recession ในสหรัฐฯมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
มุมมอง
- คาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สำหรับการประชุม Fed Meeting ในวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้
- Fed มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับ 5.00-5.25% ไปจนถึงช่วงปลายปี จากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
- ภาพระยะสั้นถึงกลางมองตลาดจะยังเผชิญความผันผวน จากภาพเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่นระดับสูงทำให้ภาพการเกิด Recession เด่นชัดมากขึ้น
- ในระยะยาวคงมุมมองว่าการปรับตัวลงของตลาดจะเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหากนักลงทุนสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ เพราะแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ถึงจุดพีคแล้ว ทำให้แรงกดดันจากภาพอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นมีแนวโน้มลดลง
กองทุนที่น่าสนใจลงทุน
- LHSTRATEGY (สำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง) พอร์ตลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีลักษณะเป็น Low Beta (มีความผันผวนต่ำ) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในสภาวะตลาดที่มีการเผชิญความผันผวนที่ค่อนข้างสูง
- LHCHINA (สำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง) จากการกลับมาเปิดประเทศของจีนทำให้แนวโน้มการขยายตัวของ GDP ในปี 2566 อยู่ที่ระดับ 5.2% (คาดการณ์โดย IMF) เทียบกับปีที่แล้วที่เติบโตเพียง 3% ประกอบกับนโยบายการเงินของจีนที่ค่อนข้างผ่อนคลายสวนทางกับประเทศอื่นๆที่มีนโยบายการเงินที่ตึงตัว
ที่มา CME group, Investing, Bloomberg 2 พ.ค. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน