สรุปภาวะตลาด


“ตลาดสหรัฐฯ ผันผวน ยังคงวิตกเศรษฐกิจถดถอย"

• ตลาดสหรัฐฯยังคงถูกกดดัน ท่ามกลางการซื้อขายผันผวน ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และผลประกอบการที่ซบเซาของบริษัทจดทะเบียน
• ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
• ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดัน ได้แก่ KBANK และ SCB ที่มีประเด็นความกังวลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ให้กับ STARK ที่เป็นประเด็นกังวล ประกอบกับความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง และเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอย
• US Bond Yield 2 และ 10 ปี อยู่ที่ 4.21% และ 3.57% ตามลำดับ ขณะที่ Dollar Index อยู่ที่ 101.91 จุด


• การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของทั้งในไทยและสหรัฐฯ
• การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดก่อนการประชุมนโยบายการเงินในเดือน พ.ค.
• ตัวเลข GDP ไตรมาศแรกของสหรัฐฯ


• หุ้นต่างประเทศ ระยะสั้นตลาดอาจ sideway up ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆบ่งชี้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยสถิติในอดีตส่วนใหญ่ ช่วงเดือนเมษายนหุ้นจะเป็นบวก จึงแนะนำกองทุน LHSEMICON และ LHESPORT สำหรับโอกาสเพิ่มผลตอบแทนในช่วงที่ตลาด
รีบาวนด์ และกองทุน LHCHINA สำหรับทยอยสะสมลงทุนในระยะกลาง/ยาว
รีบาวนด์ และกองทุน LHCHINA สำหรับทยอยสะสมลงทุนในระยะกลาง/ยาว
• หุ้นไทย เหตุการณ์ในตลาดโลกยังดูผันผวนค่อนข้างมาก จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามปัจจัยภายในประเทศ เช่น ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนเม.ย. และตัวเลขสินเชื่อที่ยังเติบโตต่อเนื่อง เป็นแรงสนับสนุนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยองค์รวม ทั้งนี้การเลือกตั้งจะช่วยเสริมความคาดหวังทางด้านบวกได้ แนะนำกองทุน LHSTRATEGY ที่พอร์ตการลงทุนเป็น Low beta เพื่อช่วยลดความเสี่ยงหากสถานการณ์ตลาดโลกผันผวนมากขึ้น หรือ LHGROWTH เพื่อทยอยสะสมในกรณีที่ดัชนีปรับตัวลงแรง
• REITs เชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่เริ่มปรับตัวลงมาสู่ระดับปกติ จะช่วยลดแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. และช่วยให้ Dividend Yield Gap กลับมาขยายตัวอีกครั้งตามการเติบโตของอัตราการเช่าและเงินปันผลที่เติบโต ทั้งนี้ Dividend Yield Gap ในปัจจุบันยังอยู่ในโซนถูก
ที่มา LH Fund, Ryt9 23 เม.ย. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา LH Fund, Ryt9 23 เม.ย. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
