สรุปภาวะตลาด
"มุมมองเกี่ยวกับ Deutsche Bank กับความเสี่ยงในภาคธนาคาร
และผลกระทบกับต่อกองทุนที่ LH Fund"
เกิดอะไรขึ้นกับ Deutsche Bank
ในเดือนมีนาคม หุ้นของ Deutsche Bank สูญเสียมูลค่าไปมากกว่า 1 ใน 5 จนถึงเมื่อวันศุกร์ (24 มีนาคม) และราคาหุ้น Deutsche Bank ปรับลง 8% ในวันศุกร์ที่ 24/3/2023 ทำให้ Market Value ของ Deutsche Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี หายไปราว 3 พันล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ขณะที่ต้นทุนประกันความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของธนาคาร (CDS) โดยอ้างอิงข้อมูลจาก S&P Market Intelligence ระบุว่า Credit Default Swaps (CDS) ของ Deutsche Bank พุ่งขึ้นเหนือ 220 Basis Point (bps) สูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2018 จาก 142 bps เมื่อ 2 วันก่อน นอกจากนี้ บอนด์ของ Deutsche Bank บางส่วนก็ถูกขายออกไปเช่นกัน โดย 7.5% Additional Tier-1 Dollar Bonds ของธนาคารลดลงเกือบ 6 เซนต์ อยู่ที่ 70.054 เซนต์ ทำให้อัตราผลตอบแทน (ซึ่งผกผันกับราคา) พุ่งแตะ 27% หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าของเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของ Tradeweb
สัดส่วนการลงทุนใน Deutsche Bank LHFUND Deutsche Bank
- LHGEQP : ผ่านกองทุน iShares MSCI ACWI ETF ซึ่งลงทุนในหุ้น Deutsche Bank มีน้ำหนัก 0.03% ณ วันที่ 24/3/2023
- LHGINCOME : ผ่านกองทุน Pimco GIS Income Fund ซึ่งลงทุนใน ตราสารหนี้ Deutsche Bank มีน้ำหนัก 0.21% โดยในส่วน AT1 ของ Deutsche Bank มีน้ำหนัก 0.06% ณ วันที่ 31/12/2022. โดย ณ วันที่ 28/2/2023 LHGINCOME มีลงทุนใน PIMCO GIS Income Fund เท่ากับ 77.01% ซึ่งคำนวนเป็นสัดส่วนที่ลงทุนของกอง LHGINCOME ที่มีในตราสารหนี้ Deutsche Bank คือ 0.16% และ ใน AT1 Deutsche Bank 0.046% ตามลำดับ
- LHGINCOMERMF : ผ่านกองทุน Pimco GIS Income Fund ลงทุนโดยตรงใน ตราสารหนี้ Deutsche Bank มีน้ำหนัก 0.21% โดยในส่วน AT1 ของ Deutsche Bank 0.06% ณ วันที่ 31/12/2022. โดย ณ วันที่ 28/2/2023 LHGINCOMERMF ลงทุนใน PIMCO GIS Income Fund เท่ากับ 77.05% ซึ่งคำนวนเป็นสัดส่วนที่ลงทุนของกอง LHGINCOME ที่มีในตราสารหนี้ Deutsche Bank คือ 0.16% และ ใน AT1 Deutsche Bank 0.046% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ผลตอบแทนกอง PIMCO GIS Income Fund ณ วันที่ 24/3/2023 สรุปได้ดังนี้
Source : PIMCO, 24/3/2023
- กองทุน Complex Return 1, 2 : ซึ่งลงทุนใน THB Index Linked Derivatives Debenture อ้างอิงกับ Deutsche Bank Momentum Asset Allocator Target Volatility 5.5%
ดัชนี Deutsche Bank Momentum Asset Allocator Target Volatility 5.5% มี Deutsche Bank เป็น index provider โดยดัชนีประกอบด้วย หุ้น S&P 500, ตราสารหนี้ 10Y US Rate, ทองคำ และ เงินสด money market และมีการควบคุมความผันผวนที่ไม่เกิน 5.5% โดยดัชนีจะมีการ rebalance ทุกเดือน โดยดูผลตอบแทนของแต่ละสินทรัพย์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยให้น้ำหนัก 70% ในดัชนีที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด และ 30% ในดัชนีที่ให้ผลตอบแทนที่ดีรองลงมา โดยถ้าผลตอบแทนของดัชนีต่ำกว่าผลตอบแทนของเงินสด ดัชนี Deutsche Bank Momentum Asset Allocator Target Volatility 5.5% จะลงทุนในเงินสดแทน โดยดัชนีดังกล่าวไม่ได้กระทบกับข่าวของ Deutsche Bank
- ในสัดส่วนของหุ้นกู้อนุพันธ์ ถึงแม้ว่าดัชนี Deutsche Bank Momentum Asset Allocator Target Volatility 5.5% จะปรับตัวลงกว่าระดับที่ลงทุน นักลงทุนยังได้เงินต้นคืนจากธนาคารกรุงไทย
มุมมองต่อ Deutsche Bank และระบบธนาคาร
ทาง บลจ LH มองว่าความเสี่ยงที่ Deutsche Bank จะล้มละลาย หรือการขาดสภาพคล่องของธนาคารเป็นไปได้ค่อนข้างต่ำ จากเหตุผลดังนี้
- ฐานะทางการเงินและกำไรของ Deutsche Bank ยังแข็งแรงอยู่ : Common Equity Tier 1 (CET1 Ratio) ซึ่งเป็นมาตรวัดความสามารถในการชำระหนี้ของธนาคาร ก็อยู่ที่ 13.4% ณ สิ้นปี 2022 โดยมีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความเสี่ยง (Liquidity Coverage Ratio: LCR) อยู่ที่ 142% และมีแหล่งเงินที่มีความมั่นคงต่อความต้องการแหล่งเงินที่มีความมั่นคง (Net Stable Funding Ratio: NSFR) อยู่ที่ 119%, กำไร Deutsche Bank เพิ่มขึ้น 10 ไตรมาสติดต่อกัน ปี 2022 ธนาคารมีรายได้สุทธิต่อปีกว่า 5 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 159% จากปีก่อนหน้า Return on Tangible Equity (RoTE) จาก -0.1% เป็น 9.4% ในปี 2022 Credit Rating ของ Deutsche Bank A-, Stable โดย S&P Global Rating (แหล่งที่มา Deutsche Bank, กพ 2023)
- กลุ่ม ธุรกิจของ Deutsche Bank มีรายได้สูงขึ้น Cost-to-Income (CIR) ลดลง และ Return on Tangible Equity (RoTE) สูงขึ้น
แหล่งที่มา Deutsche Bank, กพ 2023
- Deutsche Bank ได้มีการจ่ายปันผลที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน ?
แหล่งที่มา Deutsche Bank, กพ 2023
- ล่าสุด Deutsche Bank ประกาสจะมีการซื้อตราสารหนี้ใด้อยสิทธิคืนจำนวน 5 หมื่นยูโร ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อตราสารหนี้
- Deutsche Bank ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจตั้งแต่ปี 2019 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยตั้ง target เติบโตและลดต้นทุนภายในปี 2025
แหล่งที่มา Deutsche Bank, กพ 2023
- Deutsche Bank ยังมี gap ที่จะถูก trigger ตัว AT1 อีกกว่า 8% ซึ่งอยู่ในเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารยุโรป
แหล่งที่มา, Citi, มิ.ย 2022
- Deutsche Bank ลงทุนใน Commercial real estate (CRE) แบบไม่มีสิทธิ์ไล่เบี้ย non-recourse 7% ของสินเชื่อ ซึ่ง 51% อยู่ในสหรัฐ 36% ในยุโรป 13% ในเอเชีย โดยทรัพย์สินที่ลงทุนมาจากสถาบันการเงินที่มีคุณภาพ สินทรัพย์อยู่ในเมืองหลัก ที่มีการซื้อ ขาย สูง และมี Loan to Value (LTV) ที่ไม่สูง
- ด้าน โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ก็กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันศุกร์ว่า Deutsche Bank ได้จัดโครงสร้างใหม่อย่างละเอียด ปรับปรุงรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย และเป็นธนาคารที่ทำกำไรได้มาก พร้อมเสริมว่า ไม่มีพื้นฐานอะไรที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับอนาคต Deutsche Bank ถือเป็น ธนาคาร Too Big Too Fail ทาง Largarde ประธานธนาคารกลางยุโรป ออกมาประกาศว่ากลุ่ม ธนาคารยังแข็งแรงอยู่ และธนาคารกลางยุโรปพร้อมที่จะเพิ่มสถาพคล่องในตลาดการเงินถ้าต้องการ
- เรื่องความกังวลเกี่ยวกับ Deutsche Bank ซึ่งมี Exposure หรือเปิดรับความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของสหรัฐฯ และมีตราสารอนุพันธ์จำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 24/3/2023 บริษัทวิจัย Autonomous ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Alliance Bernstein ออกมาระบุว่า ข้อกังวลเหล่านี้ไม่น่ากลัว เนื่องจากเป็นที่รู้จักกันดีและไม่น่ากลัวมากนัก โดยชี้ไปที่สถานะเงินทุนและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งของธนาคาร
ในระยะสั้น ตลาดอาจยังมีความผันผวนจากความขาดมั่นใจของนักลงทุน และทาง LH Fund มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจกระทบกับราคาหุ้น หรือ หุ้นกู้ของธนาคารขนาดกลาง เล็ก ที่มีการบริหารที่ไม่ระวัง หรือ quality balance sheet หนี้สูง ปล่อยกู้ที่กับบริษัทที่มีความเสี่ยง ที่มีต้นทุนที่สูง และ คาดว่าจะมีการเข้าถูกเข้าซื้อโดยธนาคารขนาดใหญ่ที่มีฐานะการเงินที่แข็งแรง อย่างไรก็ตามคาดว่า จะไม่ส่งผลต่อความเสี่ยงของระบบการเงินในภาพรวม กลุ่มธนาคารส่วนใหญ่มีสัดส่วนเงินสำรองที่สูงมากจากกฏระเบียบ Basel 3 ที่ออกมากำกับการดำรงสินทรัพย์ของธนาคารตั้งแต่ยุควิกฤติปี 2008 ทางด้านรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกมีการเข้ามาสนับสนุนแก้ปัญหากลุ่มทางการเงินอย่างรวดเร็ว จึงมองว่าความเสี่ยงจะเป็นเหมือน Global Financial Crisis ปี 2007-2008 น้อย ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจ บลจ. LH มองว่า รัฐบาลจะมีการเข้ามาควบคุมการปล่อยกู้ธนาคารมากขึ้น เพื่อควบคุมระบบการเงินธนาคาร ซึ่งอาจกระทบกับการปล่อยกู้ ต้นทุนของธนาคาร และ ความต้องการในการกู้ยืมของประชาชนและธุรกิจ และจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อลดลงไปในตัว ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางต่างประเทศต่างๆจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยลดลง ซึ่งส่งผลกระทบดีต่อตลาดการเงิน ดังนั้นทาง LH Fund มีความเห็นว่ายังควรถือต่อในกองทุนที่มีสัดส่วนใน Deutsche Bank
LH Fund จะคอยวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์ของ Deutsche Bank และ กลุ่มธนาคารอย่างใกล้ชิด และรายงานสถานการณ์คำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ
ที่มา LH Fund
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน