สรุปภาวะตลาด
“ประธานเฟด ส่งสัญญาณอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ตลาดคาดใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”
• ภาพรวมตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนในช่วงต้นสัปดาห์จากคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับวิกฤตสภาพคล่องในภาคธนาคาร แต่ปรับตัวลงในกลางสัปดาห์ หลังเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก อย่างไรก็ตามตลาดคาดเป็นสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ในปลายสัปดาห์ตลาดได้แรงหนุนหลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐประกาศจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องเงินฝากธนาคารของชาวอเมริกัน
• ขณะเดียวกัน ECB ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ตามคาด ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร Credit Suisse
• ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นเป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังสถานการณ์ธนาคารโลกเริ่มผ่อนคลายลง และการเลือกตั้งมีความ
ชัดเจนมากขึ้น
ชัดเจนมากขึ้น
• US Bond Yield 2 และ 10 ปี อยู่ที่ 3.98% และ 3.49% ตามลำดับ ขณะที่ Dollar Index อยู่ที่ 102.36 จุด
• ช่วงปลายสัปดาห์ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ของเดือนกุมภาพันธ์ที่มีแนวโน้มออกมาสอดคล้องและอาจดีกว่าที่ตลาดคาด
• สถานการณ์ธนาคารทั่วโลกที่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
• การประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ในวันพุธที่ 29 มี.ค. คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ไปสู่ระดับ 1.75%
• ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์
• นโยบายหาเสียงของพรรคต่างๆ หลังกกต.ประกาศวันที่ 14 พ.ค. เป็นวันเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยครั้งที่ 27
• ระยะสั้น ตลาดหุ้นโดยภาพรวมยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ ท่ามกลางกระแสความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็นความแข็งแรงของธนาคารในสหรัฐและยุโรปที่ยังคงอยู่ หลังจากที่มีข่าวว่าธนาคารได้กู้ยืมเงินก้อนใหญ่จาก Fed เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมายังคงสร้างแรงกดดันต่อภาพการลงทุนในภาพรวม หลังจาก FED มองว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้
• หุ้นต่างประเทศ ระยะสั้นตลาดอาจ sideway up หลังทราบผลการประชุม FOMC ที่ได้ให้มุมมองการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว (อาจเหลือการขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียงแค่ 1 ครั้ง) และมีการปรับลด GDP ลงจาก Projection คราวก่อนไม่มาก นอกจากนี้คาดว่าหน่วยงานทางการสหรัฐจะมีการออกมาเน้นย้ำมาตรการเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบภาคการธนาคารต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่ม Growth แนะนำกองทุน LHSEMICON สำหรับเพิ่มผลตอบแทนในช่วงที่ตลาดรีบาวนด์
• หุ้นไทย ในระยะสั้นยังเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะสร้างจุดต่ำสุดไปแล้วในสัปดาห์ก่อน ถึงแม้เหตุการณ์ในตลาดโลกยังดูผันผวนค่อนข้างมาก จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และความไม่แน่นอนในภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป อย่างไรก็ตามปัจจัยภายในประเทศ เช่น ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนล่าสุด การปรับลดค่าไฟที่เป็นประโยชน์ต่อภาคการผลิต และ ตัวเลขสินเชื่อที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ยังคงเป็นแรงสนับสนุนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยองค์รวม ทั้งนี้การยุบสภาและการเลือกตั้งจะช่วยเสริมความคาดหวังทางด้านบวกได้ แนะนำกองทุน LHGROWTH เพื่อทยอยสะสมเมื่อดัชนีปรับตัวลง
• REITs อัตราการเช่าที่สูงขึ้น และเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ Property funds, REITs และ Infrastructure funds น่าสนใจลงทุน แนะนำทยอยสะสมกองทุน LHTPROP
ที่มา LH Fund, Ryt9 26 มี.ค. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ที่มา LH Fund, Ryt9 26 มี.ค. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน