สรุปภาวะตลาด
“ข้อมูลเศรษฐกิจ และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยยังคงระดับสูง”
• ภาพรวมตลาดหุ้นปรับตัวลงแรง จากรายงานการประชุม Fed Minutes บ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับ 25 bps เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนวิตกถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอาจคงระดับสูงนานกว่าคาด ประกอบกับความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ที่สูงขึ้นจากการที่ปธน.ไบเดนเยือนยูเครน ปธน.ปูตินประกาศระงับความร่วมมือสนธิสัญญานิวเคลียร์กับสหรัฐ ขณะที่ตัวเลข Core PCE พื้นฐานเดือน ม.ค. ปรับตัวขึ้น 0.6% สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%
• ขณะที่หุ้นไทยได้ปัจจัยบวกหลังนายกฯประกาศแผนยุบสภาที่จะเกิดขึ้นช่วงต้นมี.ค. แต่ยังมีปัจจัยลบจากผลประกอบการที่ส่วนใหญ่ประกาศมาแย่กว่าคาด และมีการปรับตัวลงตามบรรยากาศตลาดหุ้นต่างประเทศ
• US Bond Yield 2 และ 10 ปี อยู่ที่ 4.71% และ 3.94% ตามลำดับ ขณะที่ Dollar Index อยู่ที่ 104.52 จุด
• PMI ของจีนและยุโรปที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัว
• ผลประกอบการ 4Q22 กลุ่มท่องเที่ยวและมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน
• ความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ (Geopolitical Risk) ที่มีแนวโน้มตึงเครียดขึ้น จากการเดินทางเยือนพื้นที่รัสเซีย-ยูเครน ของผู้นำจีนและสหรัฐ
• แผนการยุบสภาและการเลือกตั้งของไทย
• ระยะสั้น คาดตลาดหุ้นมีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideway หรือ sideway down หลังเงินเฟ้อมีโอกาสลดลงช้ากว่าคาด ทำให้ FED ยังต้องขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มต่อเนื่อง จากรายงานการประชุม Fed Minutes ที่ส่งสัญญาณขึ้น 0.25%
• ระยะกลางยาว แนะนำทยอยสะสมเมื่อตลาดปรับตัวลง เนื่องจากดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงในครึ่งปีหลัง (ปลายไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4)
• หุ้นไทย การกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง จะเป็นแรงหนุนให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อกำไรของบริษัทไทย ยังแนะนำกองทุน LHSTRATEGY ที่จะลดความเสี่ยงในตลาดขาลง แต่ชนะตลาดในขาขึ้นได้ แนะนำทยอยสะสมเมื่อดัชนีปรับตัวลง
• หุ้นเวียดนาม เวียดนามยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากการเป็นฐานการผลิตของโลก และการบริโภคภายในประเทศ แนะนำกองทุน LHVN ทยอยลงทุน และเหมาะกับการลงทุนระยะยาว 5 ปี ขึ้นไป