สรุปภาวะตลาด
“ติดตามตลาดแรงงานสหรัฐฯ หากลดความร้อนแรงจะส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง”
ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นการอ่อนตัวลงต่อเนื่องหลังยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. ติดลบ 4% มากกว่าคาดการณ์ ขณะที่ตลาดแรงงานก็เริ่มลดความร้อนแรงหลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ 225,000 ตำแหน่ง เริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ ซึ่งน่าจะทำให้นักลงทุนลดความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ FED ได้บ้าง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลงต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ทำให้ S&P500 และ Nasdaq ในปี 2022 ติดลบ 20% และ 34% ตามลำดับ กดดันโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นแรงและเร็วเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปทั้งปีติดลบเพียง 12% อาจต้องเจอเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงกว่า ขณะที่ตลาดหุ้นจีนทั้ง H และ A Shares ปรับตัวลงแรงต่อเนื่องอีกปีจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโตช้าลงจากนโยบาย zero-COVID เช่นเดียวกับตลาดหุ้นเวียดนามที่ติดลบหนักเกือบ 35% จากการปราบปรามคอรัปชั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์และการปั่นหุ้น ขณะที่หุ้นไทยแม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีที่ผ่านมาแต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นประเทศที่เคยเพิ่มขึ้นแรงช่วง 2 ปีก่อนอย่างมาก ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 และ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.43% และ 3.88% ตามลำดับ แต่ Dollar Index ลดลงมาอยู่ที่ 103.4 จุด
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเดือนธ.ค. (คาด 48.5) หากต่ำคาดเล็กน้อยจะลดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย
- ดัชนีตลาดแรงงานสหรัฐฯ เช่น ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงาน หากลดความร้อนแรงลง จะลดความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
- ผลประมูลพันธบัตรอายุ 2 ปี อยู่ที่ 4.37% ลดลงจากครั้งก่อนที่ 4.5% แสดงว่านักลงทุนลดความกังวลการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (“FED”) ลง หลังยอดขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า
- ระยะสั้น คาดสินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มผันผวนตามปัจจัยติดตามข้างต้น โดยเฉพาะยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และ ค่าจ้างรายชั่วโมง ซึ่งหากแย่กว่าคาด จะช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง
- ระยะกลางยาว ด้วยตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลงแรงในปีนี้จนทำให้ Valuation ลดลงมาจากต้นปีก่อนค่อนข้างมาก จึงมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมกองทุนหุ้น เนื่องจากดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง
- หุ้นไทย ยังน่าสนใจลงทุนด้วยการฟืนตัวต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวและการบริโภคมองใน 4 เดือนแรกของปีหุ้นปันผลเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจลงทุน
- หุ้นเวียดนาม แนะนำทยอยลงทุนระยะยาว 5 ปี ขึ้นไป
- ตราสารหนี้ระยะกลางยาวมีโอกาสได้รับประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่ลดลง
กองทุนแนะนำ
LHSTRATEGY, LHEQD, LHVN, LHGINCOME
ที่มา LHFUND, Bloomberg, CNBC, Investing 2 ม.ค. 66
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน