สรุปภาวะตลาด


"จับตาการเติบโตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หากอ่อนแอกว่าคาด จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดระยะสั้น"

ประมาณการณ์เบื้องต้นดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากกว่าคาดในเดือนตุลาคม โดยลดลงเหลือเพียง 47.6 จุด น้อยกว่าคาดที่ 50 จุด การลดลงต่ำกว่า 50 จุด บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวในอนาคต ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่เดือนตุลาคมกลับมาเร่งตัวขึ้นเป็น 632,000 หลังอีกครั้ง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 และ 10 ปี เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ที่ 4.5% และ 3.7% ตามลำดับ ขณะที่ Dollar Index ทรงตัวอยู่ที่ 106 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวในกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจชะลอมากกว่าคาด ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 2.8% หลังตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์กลับมามีชื่ออยู่ใน World Equity Federation (WEF) อีกครั้ง ลดความกังวลว่าหุ้นเวียดนามจะถูกนักลงทุนต่างชาติขายออกเนื่องจากไม่เป็นไปตามกฎการลงทุน

- ความร้อนแรงของตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เช่น การจ้างงานนอกภาคเกษตร (200,000 ตำแหน่ง), อัตราการว่างงาน (3.7%), การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างรายชั่วโมง (0.3% mom), ตำแหน่งงานเปิดใหม่ (10.3 ล้านตำแหน่ง), core PCE (0.3% mom) และ ยอดขายบ้านมือสอง (-5% mom) โดยหากลดความร้อนแรงลงเล็กน้อย จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อสามารถควบคุมได้แล้ว
- ดัชนีเศรษฐกิจเช่นความเชื่อมั่นผู้บริโภค (100 จุด) และ ISM Manufacturing PMI (49.8 จุด) หากดีกว่าคาดเล็กน้อยจะบ่งบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้แม้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเร็วและแรง ลดความกังวลเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง

- ระยะสั้น คาดสินทรัพย์เสี่ยงยังผันผวนและเคลื่อนไหว sideway ทั้งนี้จากการที่ Greed and Fear Index ปรับขึ้นมาอยู่ในโซน Greed ดังนั้นหากต้องการเข้าลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นควรทำด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เพราะ upside อาจเหลือไม่มากนัก
- ระยะกลางยาว มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมกองทุนหุ้น ทั้งกองทุนรวมหุ้น และ SSF, RMF เนื่องจากธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงเพื่อรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว
- หุ้นไทยน่าสนใจลงทุนด้วยวัฏจักรเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้าหนุนโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติและการบริโภค
- หุ้นเวียดนาม เริ่มมีปัจจัยบวกหลังตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์กลับมามีชื่ออยู่ใน WEF อีกครั้ง ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามกำลังอยู่ในแผนการปรับโครงสร้าง เพื่อให้มีโครงสร้างคล้ายๆ ตลาดหลักทรัพย์ของไทยที่มีทั้ง SET Index และ MAI Index (ตามที่ได้ update ใน special update ในช่วงที่ผ่านมา) ดังนั้นความผันผวนที่เกิดขึ้นในระยะสั้นจึงมองว่าเป็นโอกาสทยอยลงทุนในระยะยาว 3-5 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจ รายได้ และกำไรเติบโตสูง และ valuation ไม่แพง
- LHSTRATEGY เน้นลงทุนหุ้นไทย โดยมุ่งหวังป้องกันความเสี่ยงขาลงแต่ทำผลตอบแทนที่ดีได้ในตลาดขาขึ้น
- LHVN ลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนระยะยาวในหุ้นเวียดนามที่คาดรายได้และกำไรเติบโตสูงต่อเนื่อง
- LHDIVB หุ้นสหรัฐฯ ปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
- LHCYBER หุ้นโลกที่ได้ประโยชน์จากความต้องการด้าน cybersecurity ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว
ที่มา LHFUND, Bloomberg, CNBC, Investing 27 พ.ย. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

