สรุปภาวะตลาด
"เงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด หนุน FED ลดความแรงในการขึ้นดอกเบี้ย"
เงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานของสหรัฐฯ เดือนตุลาคม อยู่ที่ 0.4% และ 0.3% mom ตามลำดับ ต่ำกว่าคาด (คาด 0.6% และ 0.5% mom)
เงินเฟ้อที่ลดลงได้แรงหนุนจากกลุ่ม Utilities (gas price), รถมือสอง และ Medicare services ที่ลดลงเทียบเดือนก่อนหน้า ขณะที่เงินเฟ้อจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ยังเพิ่มขึ้น 0.8% mom มากกว่าเดือนก่อนหน้า
ผลจากเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ทั้งรุ่น 2 และ 10 ปี ลดลงแรงมาอยู่ที่ 4.3% และ 3.8% หลังเคยขึ้นไปถึงระดับ 4.7% และ 4.2% ตามลำดับ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกแรงนำโดยดัชนี Nasdaq ที่เพิ่มขึ้นกว่า 7% และ S&P500 เพิ่มขึ้นกว่า 5% เป็นการเพิ่มขึ้นแรงสุดในวันเดียวนับแต่ปีค.ศ. 2020 Dollar Index อีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาดในช่วงที่ผ่านมาอ่อนตัวลงแรง มาอยู่ที่ 108 จุด
ทั้งนี้หากเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน (ประกาศวันที่ 13 ธ.ค.) อ่อนตัวลงต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยหนุนให้ FED ลดความแรงในการขึ้นดอกเบี้ยเหลือ 0.5% ในเดือนธ.ค. และอีก 0.5% ในปีหน้า (ทำให้ Terminal rate ลงมาอยู่ที่ 4.75-5%) อย่างไรก็ดียังคงต้องติดตามเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนพฤศจิกายนอย่างใกล้ชิด
เรามองว่าในระยะกลางยาว เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง (แม้จะมีความผันผวนระหว่างทางอยู่บ้างจากเงินเฟ้อพื้นฐานที่อาจกลับมาแร่งตัว และการ revised down กำไรบริษัทจดทะเบียน หากเกิดเศรษฐกิจถดถอย) แต่ก็เป็นโอกาสในการทยอยลงทุนที่ดีสำหรับผู้ที่ลงทุนได้ 3-5 ปี ขึ้นไป โดยเฉพาะสำหรับกองทุนหุ้นกลุ่ม growth ที่ปรับตัวลงมากตั้งแต่ต้นปี จนทำให้ Valuation ลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจอีกครั้ง
ที่มา CNBC, BLS วันที่ 11 พ.ย. 65