สรุปภาวะตลาด
“แบงค์ชาติเวียดนาม ขึ้นดอกเบี้ยอีก 1% ต่อเนื่อง ต้องกังวลหรือไม่?”
ธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam “SBV”) ประกาศปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายอีก 1% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันในวันนี้ โดย refinancing rate และ discount rate เพิ่มขึ้นเป็น 6% และ 4.5% ตามลำดับ ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากอายุ 1-6 เดือน เพิ่มเป็น 6% (เดิม 5%) และดอกเบี้ยการกู้ยืมของสินเชื่อที่ให้แก่กลุ่มการเกษตร การส่งออก SMEs และเทคโนโลยีระดับสูง เพิ่มเป็น 5.5% (เดิม 4.5%)
วิเคราะห์การขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อเนื่อง ทำไมต้องขึ้นทั้งที่เงินเฟ้อก็ไม่ได้ร้อนแรงมาก?
เป็นที่เข้าใจว่าการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ นอกจากจะชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจแล้วก็เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ผ่านการลดความร้อนแรงของฝั่ง “อุปสงค์” (demand) แต่อีกนัยยะหนึ่งของการขึ้นดอกเบี้ยก็อาจมองได้ว่าต้องการลดการอ่อนค่าของสกุลเงินของประเทศ ซึ่งเวียดนามพบปัญหาค่าเงินด่องอ่อนค่าต่อเนื่องเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ (อ่อนค่าลงประมาณ 8.5% YTD)
ปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่ SBV ต้องเลือกขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่เงินเฟ้ออยู่ไม่ถึง 4% yoy ก็ เพราะว่าไม่ต้องการให้เวียดนามตกอยู่ในประเทศที่มีการแทรกแซงค่าเงินตนเองให้อ่อนค่า และ ลดความเสี่ยงด้านทุนสำรองของประเทศที่ปัจจุบันลดลงเหลือ 3 เท่าของยอดนำเข้าต่อเดือน
โดยเมื่อสามารถดำเนินการให้เงินด่องมีเสถียรภาพได้ จะทำให้ธนาคารกลางกลับไปมุ่งเน้นที่การใช้ดอกเบี้ยต่ำลง เพื่อกระตุ้นการบริโภคได้
เรามองอย่างไร?
ทีมผู้จัดการกองทุน มองว่า การลงทุนในหุ้นเวียดนาม เราอาจจะต้องมองออกเป็น 2 ประเด็นด้วยกันนั่นคือ
1. Sentiment การซื้อขายของตลาดหุ้นเวียดนาม: ในระยะสั้นคาด sentiment การซื้อขายหุ้นเวียดนามอาจจะยังไม่สดใสมากนัก เนื่องจากการปราบปรามการทุจริตของภาครัฐ ยังไม่เสร็จสิ้นทั้งหมด ทำให้มีผลต่อความผันผวนของตลาดหุ้นได้เป็นระยะๆ จนกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการสืบสวนการทุจริต
2. ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นเวียดนาม: ความสามารถในการเติบโตของเศรษฐกิจของเวียดนาม และ ผลประกอบการณ์ของบริษัทจดทะเบียน ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดย GDP ในปี 2022 และ 2023 คาดจะเติบโต 6.5-7% yoy นอกจากนี้ valuation (forward P/E) ตลาดหุ้นเวียดนามยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจมากเมื่อเทียบกับศักยภาพในการเติบโต โดยปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่า 9.5 เท่า (ต่ำกว่า 2 SD เทียบค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)
โดยสรุป เรามองว่า ปัจจัยพื้นฐาน การเติบโต และ valuation ของตลาดหุ้นเวียดนาม ยังมีความน่าสนใจเข้าลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว อย่างไรก็ดี ระยะสั้นตลาดจะยังคงมีความผันผวนอยู่สูงเนื่องจากการกวาดล้างคอรัปชั่นที่ยังเป็น overhang ต่อเนื่อง และสภาพคล่องในตลาดที่ลดต่ำลงกว่าช่วงก่อนหน้า
ที่มา LH Fund, CNBC, VNExpress, Maybank 25 ต.ค. 65