สรุปภาวะตลาด
“ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ ส.ค. จะลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายเดือนหรือไม่?”
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (“FED”) กล่าวน้ำอีกครั้งว่า FED ยังต้องดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่หมัด ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (“ECB”) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย deposit rate และ main refinancing rate อีก 0.75% เป็นการปรับขึ้นต่อครั้งสูงที่สุด โดยให้เหตุผลเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อเช่นเดียวกัน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ rebound ได้หลังปรับตัวแรงในสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.6% และ 4.1% ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป STOXX50 เพิ่มขึ้น 0.7% และตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 2% ขณะที่ VIX Index ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 22 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ทั้งอายุ 2 และ 10 ปี ยังคงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.5% และ 3.3% ตามลำดับ
- อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ คาด อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่ม 0.3% mom ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดลดลง 0.1% mom ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
- U.S. core retail sales และ retail sales คาด + 0.2% และ 0.2% mom โดยหากขยายตัวดีกว่าคาดจะบ่งบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวได้ดีแม้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง
- อัตราเงินเฟ้อยุโรป คาดเพิ่มขึ้น 9.1% yoy โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในฤดูหนาวจากค่าไฟและราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น
- แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมา outperform ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังต้องระวังว่าเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงเป็นระยะเวลานาน หากเศรษฐกิจชะลอตัวลงเร็วและแรง อาจเกิด stagflation
- ทั้งนี้ 5-yr Breakeven Inflation ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจาก 3.6% มาอยู่ที่ 2.5% ในปัจจุบัน หากยังลดลงต่อเนื่องอาจทำให้ FED ไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ยสูงเกินไป และอาจทำให้ terminal rate ลดลงได้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น
- แนะนำลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยทยอยสะสมเมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลง โดยการลงทุนในสหรัฐฯ แนะนำกระจายความเสี่ยงด้วยการมีทั้งหุ้นที่ค่อนข้าง defensive และ growth ในพอร์ทลงทุน
- ยังคง ให้น้ำหนักในหุ้นของประเทศที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการบริโภค รวมถึงยัง laggard และ valuation ไม่แพงเช่นไทย เวียดนาม กองทุนแนะนำเช่น
- LHSELECT ลงทุนหุ้นไทยขนาดกลางขนาดใหญ่ที่ได้ประโยชน์จาก reopening theme และเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ
- LHVN ลงทุนในหุ้นเวียดนามที่คาดรายได้และกำไรเติบโตสูงต่อเนื่องในระยะกลางยาว
- LHDIVB หุ้นปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
- LHCYBER ได้ประโยชน์จากความต้องการด้าน cybersecurity ยังคงเพิ่มขึ้นในระยะกลางยาว
ที่มา LH Fund 11 ก.ย. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน