สรุปภาวะตลาด
"มองหาโอกาสลงทุน หลัง Apple เตรียมย้ายฐานการผลิต MacBook และ Apple Watch"
เหล่าสาวก Apple หลายคนอาจกำลังตื่นเต้นกับข่าวว่า Apple เตรียมเปิดตัว iPhone 14 ในวันที่ 7 กันยายน นี้ อย่างไรก็ดีมีอีกข่าวหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกันก็คือ Apple เตรียมย้ายฐานการผลิต MacBook และ Apple Watch ออกจากจีนโดยมีปลายทางก็คือ “เวียดนาม” เพื่อนบ้านของเรานั่นเอง
ก่อนหน้านี้จีนเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของโลก แต่จากการแย่งชิงตำแหน่งมหาอำนาจของโลกระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการลดความเสี่ยงของห่วงโซ่การผลิต ทำให้บริษัทสหรัฐฯ ต้องพยายามลดการพึ่งพาประเทศจีนให้ได้มากที่สุด โดยก่อนหน้านี้ Apple ได้ย้ายฐานการผลิต iPhone บางส่วนจากจีนไปยังอินเดียและมีการเริ่มผลิต iPhone 13 ไปแล้ว รวมถึงเตรียมย้ายฐานการผลิต iPad ไปอินเดียด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ Apple ได้ย้ายฐานการผลิต iPad และ AirPods จากจีนบางส่วน ไปเวียดนาม
ล่าสุดก็มีรายงานจาก Nikkei Asia ว่า Apple กำลังเริ่มพิจารณาย้ายฐานการผลิตของ MacBook และ Apple Watch ออกจากจีนไปยัง “เวียดนาม” ด้วย เช่นเดียวกัน โดย Foxconn และ Luxshare Precision Industry หนึ่งใน supplier ของ Apple ได้เริ่มมีการทดสอบผลิต MacBook และ Apple Watch ในตอนเหนือของเวียดนามแล้ว หากสามารถขึ้นไลน์การผลิตได้จริงจะเป็นการผลิต MacBook และ Apple Watch นอกจีนเป็นครั้งแรก
ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่า เวียดนามกำลังเป็นที่สนใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ในการตั้งฐานการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะค่าแรงยังถูก ประชากรกว่า 60% เป็นวัยแรงงานที่มีทักษะเพียงพอและพัฒนาได้ มีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่รองรับ โดยคาด GDP ไตรมาส 2/2565 โต 7.7% สูงสุดตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีพ.ศ. 2550 และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องหนุนโดยการบริโภค การท่องเที่ยว การส่งออก และการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาจีนอีกด้วย
ในด้านตลาดหุ้น Bloomberg Consensus คาดว่ากำไรของบริษัทในเวียดนามจะเติบโต 15% - 20% ในปีนี้และปีหน้า ขณะที่ Valuation ผ่าน NTM forward P/E ยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและถูกกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ โดยอยู่ที่ประมาณ 10 x ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีอยู่ที่ 11.7x และตลาดหุ้นโลกอยู่ที่ 16x-17x นอกจากนี้ Earning Yield Gap ที่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยก็ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามมีความน่าสนใจลงทุนเช่นกัน
กองทุนแนะนำเช่น LHVN ซึ่งลงทุนทั้งในกองทุน ETF และลงทุนหุ้นของบริษัทในเวียดนามที่มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตอย่าง active โดยผลตอบแทน 6 เดือนย้อนหลัง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ -12.3% ดีกว่าดัชนีชี้วัดและค่าเฉลี่ยของกลุ่มเดียวกันที่ให้ผลตอบแทน -14.2% และ -15.9% ตามลำดับ ขณะที่ความผันผวนต่ำกว่าดัชนีชี้วัด สำหรับหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุนเช่น Vietnam Equity Fund, Vietnam Diamond ETF และ Vinhome Joint Stock เป็นต้น
ที่มา: Nikkei Asia, Bloomberg, LH Fund
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน