สรุปภาวะตลาด


"เงินเฟ้อสหรัฐฯ peak จริงไหม และความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันจะเป็นอย่างไร"

การจ้างงานนอกภาคเกษตรและค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 528,000 ตำแหน่ง และ 0.5% mom ตามลำดับ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยการจ้างงานทั้งหมดกลับมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนการระบาดของ COVID-19 แล้ว ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มถดถอยลงหลังประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ Nancy Pelosi เดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ

ตลาดหุ้นส่วนใหญ่เกิดความผันผวนระหว่างสัปดาห์จากความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงในช่องแคบไต้หวันอันเป็นผลจากการเดินทางมาของ Nancy Pelosi ทำให้จีนประกาศซ้อมรบด้วยกระสุนจริง 4-7 ส.ค. ขณะที่ 2-10 spread ของพันธบัตรสหรัฐฯ ติดลบมากขึ้น หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ทำให้ 2-yr bond yield เพิ่มขึ้นแตะ 3.2% อีกครั้ง อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้น Nasdaq ตัวแทนหุ้นกลุ่ม growth ยังคงปรับตัวขึ้นได้ราว 2% จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 และคาดการณ์ผู้บริการที่ไม่ได้แย่มากอย่างที่กังวลกันก่อนหน้านี้

- เงินเฟ้อพื้นฐานและเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ คาดชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า (คาด 0.3% และ 0.5% mom ตามลำดับ) โดยหาก core inflation ที่มีสัดส่วนของค่าเช่าที่พักราว 40% ปรับลดลงจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น
- ประเด็นการเมืองระหว่างประเทศในไต้หวัน หากจีนไม่มีมาตรการอื่นเพิ่มเติมและไม่มีการตอบโต้จากสหรัฐฯ และไต้หวัน จะทำให้ความกังวลลดลง เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น
- ผลประกอบการไตรมาส 2/2565 โดยในไทยจะเป็นสัปดาห์ของกลุ่ม real sector ซึ่งจะชี้ผลกระทบของต้นทุนที่สูงขึ้นว่าบริษัทรับมือได้ดีเพียงใด

- มองว่า FED มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง และอาจเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดผ่านการประชุมที่ Jackson Hole ช่วงปลายเดือนสิงหาคม คาดเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นสำหรับผู้ลงทุนระยะยาว สำหรับผู้ลงทุนระยะสั้นอาจเข้าลงทุนหลังประกาศเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมในวันที่ 10 สิงหาคม โดยกองทุนแนะนำเช่น
- LHDIVB หุ้นปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
- LHMSFL ลงทุนหุ้นไทยขนาดกลาง ขนาดเล็ก ที่มีโอกาสการเติบโตสูงในอนาคต
- LHCYBER ความต้องการด้าน cybersecurity ยังคงเพิ่มขึ้นในระยะกลางยาว
- LHGINCOME ได้ประโยชน์จากการกลับมาลงทุนในตราสารหนี้ที่ yield ปรับตัวขึ้นมาในระดับที่น่าสนใจ
- LHPROPIA สำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังเงินปันผล และลงทุนระยะยาวได้
ที่มา LH Fund 7 ส.ค. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

