สรุปภาวะตลาด


"ติดตามผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่"

เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปส่งสัญญาณชะลอตัวผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการนั้น Tesla, Goldman Sachs, Johnson & Johnson ทำได้ดีกว่าคาดการณ์ สงครามรัสเซีย-ยูเครน เริ่มมีพัฒนาการเชิงบวกหลังรัสเซียเริ่มกลับมาส่งก๊าซให้ยุโรป และยังตกลงกับยูเครนให้ส่งออกอาหารผ่านทะเลดำได้อีกครั้ง

แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปจะมีแนวโน้มชะลอลง แต่ผลประกอบการบริษัทที่ไม่ได้แย่อย่างที่คาดการณ์ไว้ และสัญญาณบวกเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรปปรับตัวขึ้นได้ โดย S&P500, Nasdaq และ STOXX50 เพิ่มขึ้น 3.3%, 2.5% และ 3.4% ตามลำดับ อย่างไรก็ดีการที่ SnapChat ผลประกอบการแย่กว่าคาด กดดันให้หุ้นกลุ่ม Digital Ads ปรับตัวลงแรงในวันศุกร์

- การประชุม FED คาดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% และหลังจากนี้จะขึ้นด้วยอัตราที่ลดลง
- ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Microsoft, Google, Facebook, Apple และ Amazon ซึ่งหากดีกว่าคาดการณ์ จะช่วยลดความกังวลของนักลงทุนได้
- U.S. Core PCE ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญที่ FED ใช้ประกอบการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองในสหรัฐฯ หากชะลอความร้อนแรงลง จะทำให้เงินเฟ้อมีโอกาสผ่านจุดสูงสุด

- ยังคงให้น้ำหนักกับผลประกอบการ และมุมมองในช่วงที่เหลือของปีแต่ละบริษัท เป็นสำคัญ ซึ่งหากดีกว่าคาดจะช่วยหนุนตลาดได้
- คาด FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% และลดอัตราเร่งลงหลังจากนี้ และอาจเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดผ่านการประชุมที่ Jackson Hole ช่วงเดือนสิงหาคม คาดเป็นจังหวะที่ดีในการกลับมาทยอยสะสมหุ้น
- ยังแนะนำลงทุนในบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง หนี้สินต่ำ หรือบริษัทที่ครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว กำไรมีโอกาสเติบโตต่อ และ valuation ไม่แพง กองทุนแนะนำเช่น
- LHDIVB หุ้นปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
- LHSTRATEGY ลงทุนหุ้นไทย low beta เหมาะกับช่วงที่ตลาดผันผวนสูง
- LHCYBER ความต้องการด้าน cybersecurity ยังคงเพิ่มขึ้นในระยะกลางยาว
- LHCHINA ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเปิดเศรษฐกิจ
- LHPROPIA สำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังเงินปันผล และลงทุนระยะยาวได้
ที่มา LH Fund 24 ก.ค. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

