สรุปภาวะตลาด
"James Bullard กรรมการ FED กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าเกิด Recession กองทุนใดน่าลงทุน"
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (“FED”) กล่าวว่า FED มีความจริงจังที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ที่ส่วนหนึ่งมาจากฝั่ง demand แม้ว่าอาจต้องแลกมาด้วยการเกิดเศรษฐกิจถดถอยชั่วคราวในระยะข้างถัดไป ขณะที่ James Bullard กรรมการ FED ที่คอยแนะให้ FED เร่งขึ้นการดอกเบี้ยมาโดยตลอด ได้ออกมาชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าเกิด Recession จากการขึ้นดอกเบี้ย และตลาดพันธบัตรรับรู้การขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 2 เดือน โดย S&P500 +7% และ Nasdaq +9% หลัง James Bullard กรรมการ FED ที่มีความ Hawkish มาก กล่าวว่า FED อาจไม่สามารถดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดไปโดยตลอดได้
- ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ ซึ่งหากชะลอตัวลง นักลงทุนอาจตีความว่าเงินเฟ้อมีโอกาสชะลอการปรับตัวขึ้นในระยะถัดไป
- Core PCE ซึ่งเป็นตัวเลขที่ FED ใช้ประกอบการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย หากต่ำกว่าคาดเป็นผลดีกับตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
- มองว่าตลาดหุ้นมีโอกาส rebound ได้ในระยะสั้น จนก่อนการประกาศเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต้นเดือนก.ค. อย่างไรก็ดีในภาพระยะกลาง-ยาว ยังมองเป็นตลาดขาลง และจะกลับตัวเป็นขาขึ้นเมื่อ bond yield ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว นักลงทุนระยะยาว ระยะเวลาลงทุน 1 ปี ขึ้นไป ทยอยสะสม ส่วนนักลงทุนระยะสั้น หากต้องการเก็งกำไร ควรมีจุด cut loss ที่ชัดเจน กองทุนที่แนะนำได้แก่
- LHDIVB : หุ้นปันผลสูง และ/หรือ ซื้อหุ้นคืนสูง เหมาะกับการลงทุนช่วงตลาดผันผวน
- LHMSFL : เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลางขนาดเล็กที่มีโอกาสเติบโตสูง
- LHCYBER : ได้ประโยชน์จากความต้องการด้าน cybersecurity ที่เพิ่มขึ้นในระยะกลางยาว
- LHCHINA : การกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ การเปิดเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการกดดันบริษัทที่ไม่ได้มีเพิ่มเติม สนับสนุนผลประกอบการของบริษัท
- LHPROPIA : กองทุนสู้เงินเฟ้อ ขึ้นค่าเช่าได้ตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อัตราการเช่าเพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดเศรษฐกิจ และมีเงินปันผลคาดหวังระดับสูงที่ 5%-6%
ที่มา LH Fund 26 มิ.ย. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน