สรุปภาวะตลาด
"Warren Buffett Value Investor ระดับโลก..เค้าลงทุนในธุรกิจอะไร?"
รู้หรือไม่ว่านักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value investor) ระดับโลก อย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้รับการจัดอันดับเป็นบุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก อันดับที่ 5 ของปี ค.ศ. 2022 นี้ จากนิตยสาร Forbes ด้วยทรัพย์สินกว่า 1.18 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอาชีพเป็นนักลงทุนเพียงอย่างเดียว ซึ่งชื่อของวอร์เรน บัฟเฟตต์ หลายๆ คนคงคุ้นหู หรือเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เพราะเขาไม่ใช่บุคคลที่เพิ่งมารวยติดอันดับโลก แต่เป็นบุคคลที่ติดอันดับความร่ำรวยมานานหลายปีแล้ว โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่เคยหลุดจาก Top 10 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเลย แถมยังบริจาคทรัพย์สินของตัวเองอยู่บ่อยๆ โดยมีการเปิดเผยว่าเขาบริจาคเงินผ่านองค์กรการกุศลต่างๆ แล้วมากกว่า 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย
และเขาก็มีบริษัทเป็นของตัวเอง ชื่อว่าบริษัท Berkshire Hathaway ด้วย ซึ่งแรกเริ่มเดิมที่บริษัทนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ไม่ได้ก่อตั้งขึ้นเอง เอ๊ะ แล้วเรื่องราวความเป็นมาจะเป็นอย่างไร วันนี้ LH Fund Business Insight จะขอพานักลงทุนทุกท่านไปทำความรู้จักบริษัทนี้กันครับ
บริษัท Berkshire Hathaway ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1839 ในรัฐโรดไอแลนด์ สหรัฐอเมริกา โดยแรกเริ่มบริษัทนี้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมสิ่งทอ แต่พอช่วงปี ค.ศ. 1929 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ขึ้น ที่เรียกว่า The Great Depression ทำให้บริษัท Berkshire Hathaway เอง ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และต้องปลดคนงาน รวมถึงปิดโรงงานลงหลายส่วน
ต่อมาในปี ค.ศ. 1962 วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งตอนนั้นอายุได้ 31 ปี ได้เข้ามาซื้อหุ้น Berkshire Hathaway เพราะเขามองว่าราคาหุ้น หรือ Valuation ถูกมากแล้ว และได้สะสมซื้อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1965 ก็สามารถเข้าเป็นหุ้นใหญ่และควบคุมบริษัทได้ในที่สุด
และหลังจากนั้นไม่นาน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เริ่มใช้บริษัท Berkshire Hathaway ในการเข้าซื้อธุรกิจต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จนบริษัท Berkshire Hathaway มีลักษณะการทำธุรกิจ คือ การเข้าลงทุนในบริษัท / ธุรกิจอื่นๆ หรือที่เรียกว่า Holding company นั่นเอง ซึ่งปัจจุบัน บริษัทที่ Berkshire Hathaway เข้าไปลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่
1.Apple Inc.
2.Bank of America
3.American Express
4.Coca Cola
5.Kraft Heinz
การที่ Berkshire Hathaway เข้าลงทุนในบริษัทอื่นๆ ก็ทำให้เวลาที่บริษัทนั้นๆ จ่ายเงินปันผล ก็จะกลับคืนมาเป็นรายได้ให้แก่ Berkshire Hathaway ซึ่งรายได้ล่าสุดปี 2021 ของบริษัทสูงถึง 89,795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่ที่ผ่านมาบริษัทนี้ไม่เคยจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมาก่อน เพราะบริษัท Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ จะนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนในธุรกิจอื่นต่อ ขยายไปเรื่อยๆ มันก็เลยทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนี้พุ่งขึ้นสูงไปเรื่อยๆ จนเป็นหุ้นที่ราคาแพงที่สุดในโลก ปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 460,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น หรือประมาณหุ้นละ 15 ล้านบาท ถึงแม้บริษัท Berkshire Hathaway จะไม่เคยจ่ายเงินปันผลมาก่อน แต่บริษัทก็มีการรับซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุน อย่างต่อเนื่องประจำทุกๆ ปี ทำให้นักลงทุนที่ถือก็สามารถเลือกได้ว่าจะขายหุ้นที่ราคาตลาด หรือ ขายคืนให้กับบริษัท โดยในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมาทาง Berkshire Hathaway ก็มีการซื้อหุ้นคืนกว่า 26,942 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว
และแม้จะมีการซื้อหุ้นคืนไปจำนวนมาก แต่บริษัทก็รักษาระดับ กระแสเงินสดได้อย่างดี ตั้งแต่ปี 2018 บริษัทก็มี Free Cash Flow หรือกระแสเงินสดอิสระ มากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุกปี และปี 2021 ล่าสุด มี Free Cash Flow อยู่ที่ 26,145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ เมื่อมาดูเรื่องผลตอบแทนในช่วง 5 ปีย้อนหลังของหุ้น Berkshire Hathaway ก็พบว่าให้ผลตอบแทน ถึง 86.53% (ข้อมูลจาก Bloomberg วันที่ 26 พ.ค. 2017 – 25 พ.ค. 2022) จึงเป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าสนใจทั้งด้านการเติบโตของมูลค่าบริษัท และความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ที่ช่วยให้บริษัทมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ทนต่อทุกสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจได้นั่นเอง
สำหรับนักลงทุนที่อยากจะเข้าลงทุน กับบริษัท Berkshire Hathaway ของนักลงทุนระดับโลกอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็สามารถลงทุนได้ง่ายๆ ผ่าน LHDIVB ซึ่งเปิดเสนอขาย IPO ช่วงวันที่ 19 – 27 พ.ค. นี้ โดยหุ้น Berkshire ก็เป็นหนึ่งในหุ้น 10 อันดับแรกของกองทุนหลักที่กองทุน LHDIVB ลงทุนด้วยโดยสามารถลงทุนได้ง่ายๆ ผ่าน LH Fund Online Mobile App หรือ โทร 02 2869484 เริ่มต้นเพียง 1,000 บาทเท่านั้น
ที่มา www.forbes.com/billionaires, www.berkshirehathaway.com
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
