สรุปภาวะตลาด
FED Minute ล่าสุด เขย่าโลกการเงิน การลงทุน
กองทุนไหนจะยังปังต่อได้ ติดตามกันใน Weekly market update ในฉบับนี้ครับ
รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เปิดเผยออกมาล่าสุด แสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างแข็งขันของคณะกรรมการ FED ในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยมีการกล่าวถึงการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปี 2022 เพิ่มเป็น 3 ครั้ง จากเดิม 1 ครั้ง (ซึ่งตลาดรับรู้ไปก่อนหน้าแล้ว) แต่ปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นคือการกล่าวว่าอาจมีการทำ Quantitative Tightening (QT) หรือการดึงเม็ดเงิน (ที่เคยอัดฉีดเข้าสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง) ออกจากตลาดชนิดที่เรียกว่า “เร็วกว่าคาด และไม่ทันตั้งตัว” ทำให้ Bond yield ทั้งรุ่นอายุ 2 ปี และ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ 0.89% และ 1.81% ตามลำดับ
ผลกระทบต่อตลาดทุน
หุ้น Growth ปรับตัวลงแรงตามคาดการณ์ ซึ่งเป็นโอกาสในการทยอยเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มที่ยังสามารถรักษาอัตรากำไรขึ้นต้นในระดับสูงได้ต่อเนื่องด้วยการส่งผ่านต้นทุนไปยังลูกค้า โดยยอดขายไม่ลดลง หุ้นกลุ่มนี้เช่นกลุ่มผู้ผลิตชิป เป็นต้น นอกจากนี้ดังที่เราได้แนะนำใน 1H/2022 outlook ช่วงปลายปีว่าการกระจายการลงทุนมายังหุ้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ และการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เช่นตลาดหุ้นไทย และเวียดนาม เป็นต้น
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้
ติดตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพุธนี้ (คาดเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า) โดยหากเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดจะเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง เพราะอาจทำให้ FED ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยและทำ QT เร็วกว่าเดิมได้
กองทุนใดน่าจะทำผลงานได้ดี ในช่วงความไม่แน่นอนยังสูง
กองทุนที่เข้า theme การลงทุนข้างต้นเช่น LHSEMICON ซึ่งลงทุนใน value chain ของกลุ่มผู้ผลิตชิปตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ LHGROWTH, LHMSFL สำหรับผู้ต้องการลงทุนหุ้นไทย และ LHVN สำหรับผู้ต้องการลงทุนกับการเติบโตในระยะยาวของเศรษฐกิจเวียดนาม
ที่มา LHFund 10 ม.ค. 65