สรุปภาวะตลาด
S&P 500 ยังคง All Time High ส่วนตลาดหุ้นไทยและจีน ลุ้นรีบาวด์ทางเทคนิค
เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ได้ปรับตัวสูงขึ้น 1.12%, Nasdaq +1.17%, StoxxEurope 600 +2.46% และดัชนี Hang Seng ได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 4.20% และ Shanghai composite +2.75% แต่ดัชนี Nikkei 225 ได้ ปรับตัวลดลง 0.59% (ระหว่างวันที่ 22-26 ม.ค.)
- โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้กลับมาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 และได้ขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ จากฤดูผลประกอบการในไตรมาส 4 ณ วันที่ 15 ม.ค. มี 121 บริษัทใน S&P500 ได้ประกาศผลประกอบการ โดยมี 96 บริษัทที่มีผลกำไรที่ดีกว่าที่ตลาดคาด, 5 บริษัทที่เท่ากับคาด และ 20 บริษัทที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ (โดยเฉลี่ยทั้ง 121 บริษัท กำไรออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดราวๆ 6.1%) โดยบริษัทที่มีผลกำไรที่โดดเด่น อาทิเช่น General Electrics, Intel, United Airline, American Airline และ Southwest Airline เป็นต้น (ยอดผู้โดยสารแข็งแกร่ง ในขณะที่ต้นทุนราคาน้ำมันปรับตัวลดลง) โดยมีหุ้นที่น่าสนใจอย่าง Netflix ที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นกว่า 16.4% ในสัปดาห์นี้ จากยอด Subscribers ในไตรมาส 4 ที่เพิ่มขึ้นกว่า 13 ล้านบัญชี (มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 9 ล้าน)
- ตลาดหุ้นจีน และฮ่องกง ได้มีการฟื้นตัวแรงในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ทางรัฐบาลจีน ได้ทำการประกาศถึงแผนการที่จะนำเงินของรัฐวิสาหกิจมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านหยวน เข้ามาซื้อเพื่อพยุงตลาด แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนนั้นยังคงไม่ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับเม็ดเงิน 2 ล้านล้านหยวนดังกล่าว และนักลงทุนยังคงจับตามองต่อไป ว่ารัฐบาลจีน จะสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่าปัจจุบันได้จริงหรือไม่
- ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นทิศทางยังไม่เป็นบวกชัดเจนนัก แต่ SET มีโอกาสรีบาวด์ได้จาก มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ 1) รมต จีนเดินทางมาลงนามยกเลิกวีซ่าไทย-จีน ถาวร ในวันนี้ เป็นบวกต่อ การฟื้นตัวของนทท.จีน 2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน หนุนการนำเข้าสินแร่เหล็ก ถ่านหินและยางเพื่อการผลิตสินค้าในประเทศ 3) รัฐบาลผลักดันไทยเป็นฐานการผลิตอันดับ 1 ภูมิภาค หนุนต่างชาติย้ายฐานการผลิตมาไทยมากขึ้น โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์ EV
31 ม.ค. จีน PMI ภาคการผลิต (มกราคม) คาดว่าอยู่ที่ 49.3โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 49.0
31 ม.ค. สหรัฐ การประชุม FOMC คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 5.5%
31 ม.ค. ไทย ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินพรรคก้าวไกลทำผิดมาตรา 112 หรือไม่
1 ก.ม. สหรัฐ ISM ภาดการผลิต (มกราคม) คาดว่าอยู่ที่ 47.4 โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 47.4
- LHGEQ มีกลยุทธ์การลงทุนใน Growth Stock และบริหารแบบเชิงรุก เน้นคัดหุ้นเติบโตที่เป็นอนาคตใหม่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาหุ้น ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคของ S&P 500 Index ที่ปิดเหนือ All time high เราจึงมองว่าหุ้นในกลุ่ม Big/Mid Cap , Growth มีโอกาสไปต่อได้อีก
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
