สรุปภาวะตลาด
"FED ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด"
Update ผลการประชุม FED
1. FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด (ทำให้ดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.5-1.75%) และอาจขึ้น 0.5-0.75% ในเดือนก.ค.
2. ดอกเบี้ย FED คาดอยู่ที่ 3.4% ตอนสิ้นปี เพิ่มขึ้นจากประชุมครั้งก่อนเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และคาดเพิ่มเป็น 3.8% ในปี 2023
3. Longer run rate อยู่ที่ 2.5% เท่าเดิม
4. ปรับลดคาดการณ์ GDP growth สหรัฐฯ ปี 2022 ลงเหลือ 1.7% จาก 2.8%
5. ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปี 2022 ขึ้นเป็น 5.2% แต่ลดลงเหลือ 2.6% ในปี 2023 (เงินเฟ้อพื้นฐานคาด 4.3% ปีนี้ และ 2.7% ปีหน้า)
6. คาดอัตราการว่างงานในปี 2024 ที่ 4.1% จากในปัจจุบันที่ 3.6%
ผลต่อตลาด
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง 3 ตลาด โดย Dow Jones, S&P500, Nasdaq +1%, 1.46% และ 2.5% ตามลำดับ
2. Bitcoin เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22,500 USD/BTC
3. Bond yield สหรัฐฯ ทั้ง 2 และ 10 ปี ลดลง โดย 2 ปี อยู่ที่ 3.2% (จาก 3.4%) และ 10 ปี อยู่ที่ 3.3% จาก (3.48%)
Analysis
1. ตลาดตอบรับเชิงบวก เพราะมองว่าการที่ FED ขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด แต่ longer-run rate ยังคงอยู่ที่ 2.5% เท่าเดิม ทำให้คาด FED จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงเฉพาะในระยะแรกๆ (front-load) เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
2. อย่างไรก็ดี การขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง อาจไม่ได้ทำให้เงินเฟ้อลดลงโดยเร็ว เพราะส่วนหนึ่งเงินเฟ้อมาจากปัญหาด้าน supply เช่น ราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น และผลจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน (ผลของ trade war ปี 2018) ขณะที่ด้าน demand นั้นคาดจะค่อยๆ ลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อในระยะถัดๆ ไป
3. ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงนั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงของ recession ในอนาคต ดังที่ FED คาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มเป็น 4.1% ในปี 2024
Recommendation
คาดตลาดยังคงมีความผันผวนสูง และยังคงต้องติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนต่อๆ ไปอย่างใกล้ชิด หากสูงมากกว่าคาดจะทำให้นักลงทุนกลับมากังวลได้อีกครั้ง
สำหรับผู้ที่จะลงทุนในตลาดหุ้น สหรัฐฯ แนะนำ LHDIVB ซึ่งลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จ่ายปันผล / ซื้อหุ้นคืนสูง และมีกระแสเงินสดดี หนี้สินค่อนข้างต่ำ ทำให้คาดว่าจะ outperform ได้ในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
ที่มา LH FUND 16 มิ.ย. 65
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน